สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปี 2022
1. “ชีวิตที่ยอมรับเป้าหมายจากพระเจ้าผู้ทรงเห็นอนาคตทั้งสิ้น ทำให้เรากล้าที่จะมอบอนาคตของเราต่อพระองค์ด้วยความมั่นใจและไม่กลัวการพลาดเป้า”
2. “การมีเพื่อนที่ดีร่วมเดินทางไปด้วยกันในแต่ละวันคือของขวัญที่มีค่ายิ่งของชีวิต เพราะทำให้การเดินทางในโลกนี้ไม่โดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงาและไร้เพื่อน”
3. เคยได้ยินประโยคที่บอกว่า “รู้จักกันนาน ไม่ได้แปลว่ารู้จักกันดี” ประโยคนี้ลึกซึ้งกินใจในปี 2022 นี้ เพราะเวลาที่ผ่านไปอาจไม่ได้ช่วยให้เรารู้จักใครบางคนมากขึ้น แต่การได้เห็นหรือได้รับรู้ในสิ่งที่เขาทำต่างหากที่จะทำให้เรารู้จักเขามากขึ้นยิ่งกว่าเวลา
4. “เมื่อพระเจ้าไม่ได้ตอบคำอธิษฐานในสิ่งที่เราทูลขอ ก็ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าจะไม่ทรงประทานสิ่งดีๆ ที่เราไม่ได้ทูลขอ”
มีหลายสิ่งดีที่เราได้รับ เพราะพระเจ้าทรงประทานอย่างคาดไม่ถึงโดยที่เราไม่ได้ทูลขอต่อพระองค์เลย
5. “หากเรายึดมั่นในความบริสุทธิ์ชอบธรรม การให้อภัยคนที่ทำผิดบาปต่อเราจนเกิดบาดแผลใหญ่ จะเป็นเรื่องที่ยากมากๆๆๆ
แต่ถ้าเราต้องการให้การอภัยเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เราคงต้องใช้หลักความเมตตาเหมือนอย่างที่พระเยซูทรงเมตตาต่อเรา”
6. “ถ้าพระเจ้าทรงปิดซ่อนอนาคตส่วนใหญ่ของเราไว้ โดยเลือกที่จะเปิดเผยเพียงส่วนน้อย
หมายความว่า พระเจ้าจะทรงโปรดดูแลอนาคตของเราเมื่อเราเลือกที่จะเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระองค์ และให้พระเจ้าทรงนำไปก้าวต่อก้าว วันต่อวัน ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา จะสุขหรือทุกข์ จะดีใจหรือเสียใจ จะหัวเราะหรือร้องไห้….อนาคตที่มีพระเจ้าอยู่ด้วยย่อมดีแน่”
7. “การให้ความไว้วางใจใครบางคนอาจทำให้เราผิดหวังอย่างแรงในบางเวลา แต่การไม่ไว้วางใจใครเลย อาจทำให้เราเหมือนคนที่อยู่กับความผิดหวังตลอดเวลา”
พระเจ้าทรงทราบดีว่า “การมอบความไว้วางใจในมนุษย์นั้นอาจทำให้เราผิดหวังได้ แต่พระองค์ก็ทรงสอนให้เราคิดในสิ่งที่ควรคิด คิดในสิ่งที่ทรงคุณต่อชีวิตและจิตใจของเรา และมีหัวใจในการให้โอกาสคนมากกว่าการมุ่งมั่นที่จะระแวงและไม่ไว้วางใจใครอีกเลย”
(จาก สิรินมาศ ลีฬหเกรียงไกร)
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น