สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปี 2022
1. ปีนี้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นผู้นำครอบครัวด้านฝ่ายจิตวิญญาณ เป็นความรับผิดชอบของผมที่นำในการแสวงหาพระเจ้าร่วมกันในการนมัสการ อธิษฐาน และศึกษาพระคัมภีร์กับโอปอ ผมยังได้เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาสำหรับการออกเดทในแต่ละสัปดาห์และ และมีการพักผ่อนทุกๆ 3 เดือนเพื่อแสวงหาพระเจ้าและสร้างความทรงจำร่วมกันเป็นครอบครัว ช่วงเวลานี้ที่เราได้เฉลิมฉลอง ได้พักผ่อน และรอคอยพระเจ้าครั้งนี้ ช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับการทรงเรียกของเราและก้าวไปข้างหน้าด้วยความคาดหวังมากขึ้น
2. ผมได้เรียนรู้ว่าผมรักการเป็นครู สิ่งที่เติมเต็มผมจากการเป็นครูคือ คือการได้เห็นคนหนุ่มสาวเติบโต ผมชอบเวลาที่พวกเขาแบ่งปันเรื่องราว ถามคำถาม รับฟังคำหนุนใจของผม และเปิดใจรับพระเจ้าที่กำลังทำงานในชีวิตพวกเขา เหมือนกับการชมดอกไม้ที่กำลังบาน และเมื่อพวกเขากลับมาบอกผมทั้งน้ำตาว่าพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของพวกเขาอย่างไร ผมก็น้ำตาไหลไปกับพวกเขาด้วยเช่นกัน
3.เมื่อมีการทดลองเกิดขึ้น ผมไม่สามารถต่อสู้ด้วยคนเดียวได้ แต่เมื่อผมแบ่งปันสิ่งล่อลวงที่เกิดขึ้น และได้รับกำลังใจ คำหนุนใจ คำอธิษฐาน และการสนับสนุนจากผู้อื่น มันช่วยให้ผมต่อสู้กับมันได้ดีขึ้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผมที่จะต้องเปิดเผยและซื่อสัตย์กับภรรยาและชายคริสเตียนคนอื่นๆ เพื่อที่เขาจะสนับสนุนและท้าทายผม
4. ตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมพยายามทำตัวให้สมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อที่จะได้เป็นลูกชายคนโปรด และแม้ว่าผมจะไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่เป็นเวลา 13 ปีแล้ว แต่ผมก็ยังพบว่าตัวเองพยายามที่ ผมจะเป็นที่จดจำในทุกๆ ที่ที่ผมไป และในงานสัมนาของผู้ชายที่เชียงราย พระเจ้าให้ผมเป็นอิสระจากการมีแรงจูงใจที่ทำอะไรก็ตามจากความกลัวต่างๆ และทรงเปิดเผยความรักของพระองค์ที่มีต่อผมอย่างลึกซึ้งและหนักแน่นมากขึ้นกว่าเดิม
5. ผมชอบคำถามที่ช่วยให้ผมได้คิดมากขึ้น และสิ่งหนึ่งที่ผมชอบในปีนี้คือ: ผมจะทำอะไรถ้าผมมีความเชื่อมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม? ถ้าผมมีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งปี? พระเจ้า พระองค์กำลังให้ผมกล้าเสี่ยงโดยความเชื่อในเรื่องใด? อะไรที่เป็นปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่พระองค์อยากให้ผมเชื่อและอธิษฐานขอ?
6. อธิษฐานเผื่อชีวิต ครอบครัว และพันธกิจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้ การอธิษฐานเป็นเหมือนกับเครื่องช่วยชีวิตเพราะผมไม่ต้องคิดทุกอย่างด้วยตัวเองหรือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผ่านการอธิษฐาน พระเจ้าเป็นผู้ทำส่วนที่ใหญ่และผมทำส่วนเล็กน้อย
7. การทบทวนความทรงจำต่างๆ เกี่ยวกับความสุข สันติสุข ความสัมพันธ์ และการเป็นที่ยอมรับ ช่วยฟื้นฟูชีวิตและด้านอารมณ์ของผมได้มาก การระลึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขกับพระเจ้าช่วยให้ผมกลับคืนสู่ความสุขและความใกล้ชิดและยิ่งโหยหามากขึ้นกว่าเดิม
1.This year, I’ve learned about leading my family spiritually. It’s my responsibility to initiate regular times of seeking God together in worship, prayer, and Bible study with Opal. I’ve also learned to set aside time for going on dates each week and a weekend away every 3 months to seek God & make memories together. These times of celebration, rest, and waiting on the Lord help us refocus on our calling and move forward with expectation.
2. I learned that I love being a teacher. The really life-giving part of it is seeing young people grow. I love it when they share their stories, ask questions, listen to my encouragement, and open their hearts to God working in their lives. It’s like watching flowers bloom. And when they come back and tell me with tears how God answered their prayers, I cry too.
3.I don’t fight well on my own. Regardless of what the temptation is, I’ll always do better when I share it vulnerably and receive encouragement, prayer, and support from others. It’s absolutely critical for me to be open and honest with my wife and other Christian men who support and challenge me.
4. Since I was a kid, I tried to be as perfect as possible in order to be the favorite son. Even though I haven’t lived with my parents for 13 years, I still find myself trying to be recognized everywhere I go . At the Chiang Rai Men’s Conference, God set me free from this fear-driven people-pleasing and revealed to me more than ever how fully, deeply, and freely I am loved by Him.
5. I need people to challenge me with questions that stretch my thinking. My favorite ones from this year have been: What would I do if I had faith? If I had all the confidence I needed? If I only had a year to live? What risky faith are You inviting me to, God? What greater miracles are You stretching me to believe for and pray for?
6.Praying about life and family and ministry changes everything. Prayer is a lifesaver because I don’t have to figure everything out on my own or do it all by myself. With prayer, God does the big bit and I do the little bit.
7. Reviewing a list of memories of joy, peace, connection, and acceptance revives me when my emotional tank runs low. Remembering joyful times with God helps me return to joy and intimacy and long for more.
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น