บทความ

“7 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปี 2022” – ดร.สมจินต์ ศรไพศาล –

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปี 2022 

ปีนี้ผมได้รับพรจากพระเจ้าให้กลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พักจาก early retire ไปสองปี รู้สึกขอบคุณพระเจ้าทั้งการได้พักและใช้เวลาใกล้ชิดกับครอบครัวมาช่วงหนึ่ง ทั้งการได้กลับมาสนุกกับการทำงานที่มีความหมายอีกครั้ง การได้กลับมาทำงานหนนี้ทำให้ได้มีโอกาสมองหาหนังสือดีๆเกี่ยวกับการทำงาน จึงจะขอแบ่งปันบทเรียนจากหนังสือสองเล่มก่อน

1. “คนเป็นหัวหน้าถูกจับตามองอยู่เสมอ”

คุณอิวะตะ มัตสึโอะ อดีต CEO Starbucks Coffee Japan เล่าให้ฟังในหนังสือ ๕๑ วิธีคิดของหัวหน้าที่ลูกน้องอยากทำงานด้วย ผู้เขียนเล่าว่า แอบได้ยินลูกน้องคุยกันว่า สงสัยบริษัทกำลังมีปัญหา เพราะเห็นซีอีโอดูเคร่งเครียด … คุณอิวาตะนึกดูแล้ว พบว่า เอ ตัวเองก็ไม่ได้เครียดอะไรมากนะ แต่สงสัยตอนนั้นคงกำลังคิดอะไรติดพันอยู่ ลูกน้องที่เห็นก็นึกว่านายเครียด เพราะฉะนั้น พอรู้แล้วว่าคนเป็นหัวหน้าจะถูกลูกน้องจับตามองอยู่เสมอ หัวหน้าต้องดำรงไว้ซึ่งบุคลิกภาพที่เชื่อมั่นและมีพลังกระตือรือร้นอยู่เสมอ เพราะลูกน้องก็อยากทำงานกับหัวหน้าที่ฮึกเหิมเปี่ยมพลังแห่งความหวังอยู่เสมอ จริงไหมครับ 😊

2. “เชื่อมั่นว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น”

ในหนังสืออีกเล่มหนึ่งของคุณอิวาตะ คือ ๕๑ วิธีคิดของลูกน้องที่หัวหน้าอยากสนับสนุน ผู้เขียนเล่าถึงวัยเด็กที่เคยเป็นเด็กดื้อ เรียนไม่เก่ง และไม่รู้จักกาลเทศะ ทำให้ไม่เป็นที่รักของครู ถึงกับถูกปรามาศว่าเป็นเด็กที่ไม่น่าจะมีอนาคต แต่ขอบคุณพระเจ้า (ภาษาผมเอง) ที่มีคุณครูประจำชั้นสมัย ป.3 คอยให้กำลังใจ และมักพูดกับเขาว่า เด็กคนนี้โตไปจะต้องประสบความสำเร็จแน่ๆ ซึ่งได้ปลุกเร้าให้ผู้เขียนมั่นใจว่า “ต้องมีสักเรื่องที่ผมสามารถทำได้ และทำให้ผมมีความเชื่อมั่นในตัวเองขึ้นมา”

อีกเรื่องที่สำคัญ คือการฝึกซ้อมเบสบอล คุณอิวาตะชอบเบสบอล และขยันฝึกซ้อมมาก เขาฝึกขว้างลูกวันละ ๑,๐๐๐ ครั้ง ต่อด้วยการวิ่งอีกห้ากิโลเมตรอย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่โอกาสการได้ลงแข่งมีไม่มาก จนในแมทช์ที่สำคัญครั้งหนึ่งตอนอยู้ปีสามมหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมทีมพากันขอโค้ชให้อิวาตะได้ลงเล่น และเขาได้ลงเล่นและมีส่วนนำชัยชนะให้กับทีม บทเรียนที่ว่าก็คือ “หากเราพยายามสุดชีวิตโดยไม่ถอดใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีใครสักคนสังเกตเห็น แล้วความพยายามของเราก็จะผลิดอกออกผลอย่างแน่นอน”

3. เราใช้ LINE หรือว่า LINE ใช้เรา

LINE เป็นแอพฯ ที่เป็นประโยชน์มาก เราสามารถใช้ LINE ในการทำงาน สื่อสารประสานงาน ทั้งยังทำให้ได้คุยเป็นหมู่คณะกับเพื่อนๆด้วย และบ่อยครั้งเราได้ข่าวสารและความรู้ดีๆ จาก LINE ด้วย แต่ก็มีบางวัน โดยเฉพาะวันที่ไม่รีบเร่งมาก เป็นวันที่เรามีสิทธิเลือกว่า จะใช้เวลาอย่างไร… วันอย่างนี้ท้าทายที่สุด เพราะเจ้าสิทธิในการเลือกนี่แหละครับ

ผมสารภาพตามตรงว่า ห้องเพื่อนสนิทมักจะเป็นห้องที่ดึงดูดเราเข้าไปก่อน สบายใจดี และมีเพื่อนบางคนคอยส่งความรู้ดีๆ กับคลิปสนุกๆมาด้วย จบจากห้องนี้ก็ต่อด้วยห้องโน้น แป๊บเดียว เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงง่ายๆเลย บางครั้งตั้งใจจะใช้มือถือค้นข้อมูลหรือสั่งงาน บางทีเห็นมีข้อความห้องโปรดเข้ามา แวะเข้าไปดูแป๊บนึง อ้าวไปอีกครึ่งชั่วโมงแล้ว เอ แล้วนี่เรากำลังจะทำอะไรน้านึกไม่ออกซะแล้ว บางทีก็มีเหมือนกัน …

ตั้งใจว่า จะพยายามต่อสู้แย่งชิงเวลาที่มีค่ากลับคืนมาในปีใหม่นี้ อธิษฐานขอพระเจ้าประทานสติและปัญญาในเรื่องนี้ ผมจงใจเขียนสติแยกออกมาจากปัญญา เพราะคิดว่าในสนามรบนี้ สติ สำคัญเป็นพิเศษ ที่จะรู้ตัวว่าเรากำลังจะทำอะไร เรากำลังทำอะไรอยู่ และทำเพื่ออะไร

4. เมื่อต้นเดือนระหว่างกินมะม่วง

เคี้ยวๆไปงงว่าทำไมมะม่วงมีกระดูก อ้าวฟันเรานี่นาโอฟันกรามด้านบนก่อนซี่สุดท้ายด้านขวาหัก ปรึกษาหมอแล้วพบว่าต้องถอนออก แล้วทำรากเทียม ตอนนี้ถอนไปแล้ว เหงือกช้ำอยู่หลายวันเลย เคี้ยวอาหารข้างเดียว ลำบากจัง …

คิดถึงแม่ที่ต้องใช้ฟันปลอมทั้งปากมาหลายสิบปี แล้วรู้สึกเห็นใจขึ้นมาเลยครับ แล้วแม่ยังต้องอดทนกับอะไรอีกน้า หูที่ได้ยินน้อยลงทำให้ท่านต้องเปิดลำโพงเวลาคุยโทรศัพท์ นิ้วมือที่มีกำลังน้อยลงทำให้การกลัดกระดุมเม็ดเล็กๆก็ลำบาก … แต่แม่ก็ยังเก่งนะ อายุ ๘๔ ปีแล้วยังมีใจร่าเริงทำอะไรต่อมิอะไรด้วยตัวเองตามกำลังได้ดีทีเดียว 😊

5. Our Blues

ซีรีซ์เกาหลีที่ประทับใจของปีนี้ คือ Our Blues ซึ่งเล่าเรื่องราวของหลากหลายชีวิตบนเกาะเจจูอันสวยงาม ในมุม bittersweet life คือช่วงชีวิตที่หวานปนขม ชอบใจตรงที่เขาเล่าเรื่องราวหนักๆที่สัมผัสได้เหมือนเล่าเรื่องจริงของคนธรรมดาๆ อย่างนายธนาคารที่ต้องแบกภาระหนี้สินเพราะอยากสร้างอนาคตที่สดใสให้ลูก หรือพ่อค้าเร่ที่ถูกบูลลี่ในวัยเด็กทำให้โตมามีบุคลิกที่แข็งกระด้าง ปัญหาที่เกิดจากความรักในวัยเรียน เป็นต้น

การต่อสู้ดิ้นรนในจิตใจและการเผชิญหน้ากับสังคมเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย หนังได้พาเราดำดิ่งไปกับความขมขื่น แต่ก็มีแซมรสหวานเมื่อมีผู้ที่รักและเห็นใจ…แม้เพียงคนเดียวก็ตาม ท่ามกลางมรสุมชีวิต คนเราก็ใช้วิธีที่แตกต่างกันไป ในยามที่อ่อนแอมากๆ เราก็หนีปัญหาด้วยความขลาดกลัว บางครั้งก็โกงด้วยการโกหก

แต่วิธีที่พอจะทุเลาและแก้ปัญหาได้จริงๆ ดูเหมือนจะมีวิธีเดียวคือ ใช้ความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง รวมทั้งการเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ บทเรียนที่ได้คือ ทุกชีวิตมีปัญหา ขอพระเจ้าประทานความกล้าหาญและความเชื่อที่จะเผชิญปัญหาเหล่านั้นอย่างมีความหวังเสมอ และขอดวงตาดั่งสายพระเนตรของพระองค์ที่จะเห็นอกเห็นใจคนที่กำลังเผชิญความขมขื่นของชีวิตด้วย

6. สิบเจ็ดปีของความเชื่อ

ตอนเตรียมเทศนาเรื่องคริสต์มาสเป็นของขวัญ นึกย้อนไปถึงเมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว ในวันศุกร์ที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๐๐๕ มีพี่น้องมาร้องเพลงที่บ้าน ตอนนั้นแม่เชื่อแล้วแต่ผมยังไม่เชื่อ แต่กำลังศึกษาหนังสือ Purpose Driven Life หรือชื่อใหม่ว่า What on earth am I here for อยู่ และรู้สึกอยากสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาส ผมก็เลยได้บอกแม่ว่า ชวนพี่น้องที่โบสถ์แม่มาร้องเพลงที่บ้านสิ

พี่น้องนับสิบคนมาร้องเพลงที่บ้านด้วยความชื่นชมยินดี ประหนึ่งชาวสวรรค์ที่มาปรากฏแก่คนเลี้ยงแกะในวันคริสต์มาสแรกเมื่อสองพันปีที่แล้ว วันนั้นเป็นวันแรกที่ผมยืนส่งพี่น้องและกล่าวคำ “พระเจ้าอวยพร” จากใจ และความชื่นชมยินดีในวันนั้นก็ค่อยๆกลายมาเป็นธรรมชาติใหม่ของชีวิตของผมและครอบครัวจากนั้นเป็นต้นมา ผมเชื่อว่านี่คือผลแห่งพระวิญญาณที่เกิดในชีวิตของเรา

เมื่อเราได้รับความรักของพระเจ้า เราจึงเปี่ยมไปด้วยความปลาบปลื้มใจกับพระคุณของพระองค์ เรามีสันติสุขแม้ในยามที่เผชิญอุปสรรคในชีวิตเพราะเรารู้ว่าพระองค์อยู่ด้วยเสมอ เราอดทนกับผู้อื่นได้ดีขึ้น เราเห็นอกเห็นใจคนอื่นและพร้อมขึ้นที่จะเหยียดออกไปช่วยเหลือพวกเขา เราต้องการจะสัตย์ซื่อ มีใจที่ถ่อมสุภาพลง เพราะเรารู้ว่าเรามีชีวิตใหม่ได้ก็ด้วยพระคุณ และเราฝึกที่จะรู้จักบังคับตน … พระเจ้าเฝ้าดูเราอยู่ และเราอยากให้พระองค์ภูมิใจ 😊

7. คดีรถสปอร์ต

เมื่อประมาณช่วงคริสต์มาสปีที่แล้วมีแมวสีสลิดตัวหนึ่งเดินเข้ามาทางหน้าบ้าน วันนั้นเราก็ให้อาหารเขากิน นับจากนั้นเขาก็มาขอข้าวกินทุกเช้าเย็น หนักเข้าก็ขอนอนในบ้านเลย ตอนนี้เลยกลายเป็นลูกคนที่สี่ของบ้านเราไปเสียแล้ว ลูกๆ ตั้งชื่อให้น้องชายตัวนี้ว่า “หัวโต” แต่หัวโตก็ยังคงรักอิสระ ใช้ชีวิตนอกบ้าน ยังขอข้าวกินหลายบ้านได้อยู่ จะเข้าบ้านเราก็ตอนหิวกับง่วง

แต่เมื่อหลายเดือนก่อนเกิดเรื่อง คือ มีคนฟ้องคณะกรรมการว่ามีแมวไปข่วนรถสปอร์ตเขา มีกล้องวงจรปิดถ่ายไว้เป็นหลักฐานด้วย เพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับเจ้าหัวโตเป็นกรรมการด้วย เห็นคลิปก็ตกใจเพราะรู้ว่าเจ้าหัวโตนี่แหละคือเจ้าตัวแสบไปข่วนรถเขา พวกเราสามบ้านที่เป็นแฟนคลับเจ้าหัวโตต้องรวมตัวกันไปขอโทษเจ้าของรถ เพราะกลัวเขาจะจับไปปล่อย…

มานึกทบทวนดู ความจริงเจ้าหัวโตก็สร้างปัญหาให้ที่บ้านเราเหมือนกันนะ ข่วนโซฟาบ้าง เสื่อโยคะผมก็โดนเหมือนกัน รถนี่มีรอยตีนแมวประจำ แต่ทำไมเราไม่โกรธล่ะ ทำไมเราถึงให้อภัยเขาได้ล่ะ… อ๋อ ก็ความรักไง ความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้…เชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอและทนต่อทุกอย่าง … อย่างนี้เองใช่มั้ยที่พระเจ้าทรงให้อภัยบาปเรา ก็เพราะพระองค์ทรงรักเรามากสินะ 😊

 

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง