1. แท้จริง การติดตามพระเยซูนั้นโดดเดี่ยว
ตั้งแต่ ผมเริ่มทำ movement สำหรับพี่น้องคริสเตียน LGBTQ
ผมโดนแรงกดดันสารพัด โดนคน inbox มาด่า โดนโจมตีว่าผมไม่ใช่คริสเตียนอีกแล้ว โดนปลดจากตำแหน่งงานรับใช้
แต่ผมพบว่า เมื่อผมเลิกทำสิ่งที่คริสเตียนส่วนใหญ่คาดหวังให้ผมทำ (อาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวหน่อยๆ) ผมก็มีอิสระที่จะทำตามสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ทำจริงๆ
2. ศาสนศาสตร์ก็ยังรับใช้อำนาจทุนนิยม
มีผู้รับใช้หลายคนที่เชื่อในศาสนศาสตร์สนับสนุน LGBTQ แบบเดียวกับผม เพียงแต่เขาไม่กล้าแสดงตัว เพราะเขายังรับใช้เต็มเวลาในพันธกิจ
การออกมาพูดเรื่อง LGBTQ อาจหมายถึง การโดนไล่ออก หรือองค์กรยอดเงินถวายลดลง
ทั้งหมดเข้าใจได้ แต่ผมก็รู้สึกเศร้าใจนัก ที่ศาสนศาสตร์เองยังคงรับใช้ภายใต้อำนาจของเงินทองอยู่ดี
3. เรียนรู้อดีตเพื่อเข้าใจปัจจุบันและอนาคต
ถ้าอยากขับเคลื่อนวงการคริสเตียนไทย ขอให้ “อ่านประวัติศาสตร์คริสตจักร”
ถ้าอยากเข้าใจตัวเอง ขอให้ “เข้าใจธรรมเนียมและบรรพบุรุษ”
ถ้าอยากช่วยเหลือชนกลุ่มน้อย ขอให้ “อ่านประวัติศาสตร์ การค้าทาส ผู้หญิง ชาวต่างชาติ”
4. การเริ่มต้นนั้นยาก แต่การยุตินั้นยากยิ่งกว่า
การเริ่มพันธกิจใหม่ ตั้งธุรกิจ พัฒนาความสัมพันธ์ใหม่ เป็นเรื่องยาก แต่การตัดสินใจเลิกทำพันธกิจที่ไม่เกิดผล หยุดทำงานที่ไม่ใช่ และยุติความสัมพันธ์ toxic นั้นเป็นเรื่องยากกว่ามาก มันต้องใช้ความกล้าหาญมากกว่า
5. เพื่อนที่อยู่กับเราในวันยากลำบาก
มันจะมีเพื่อนที่ช่วยเหลือเราในเวลาที่เราลำบาก โดยไม่หวังอะไรตอบแทน
เพื่อนแบบนั้นโครตมีค่า รักษาไว้ให้สุดชีวิตเลย
6. การหาแฟน ตอนอายุ 30s นั้นยากจริงๆ
7. ไม่มีไรล่ะ
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น