บทความ

ยื่นน้ำใจออกไป 20 ครั้ง ความช่วยเหลือจะกลับมาอย่างเต็มใจ 1 ครั้ง

ไมเคิล ไฮแอตต์  นักพูดนักเขียนชื่อดังของอเมริกา เขียนไว้ในหนังสือ Platform (New York best seller) ตอนหนึ่งได้ให้ความหมายของกฎ 20-1 ไว้ว่า

โดยทั่วไปหากเรายื่นน้ำใจออกไป 20 ครั้ง เราจะได้โอกาสขอความช่วยเหลือกลับมาได้อย่างมีน้ำใจ 1 ครั้ง ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง!

ไมเคิล ยกตัวอย่างเฟสบุ๊คเพจหนึ่งที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เขาก็แนะนำไปเรื่อยโดยไม่ได้ขายของอะไร มีผู้ชมเข้ามาติดตามมากมายเป็นหลักหมื่นในไม่กี่เดือน

วันหนึ่งเจ้าของเพจก็รีวิวกระเป๋าลากสำหรับการเดินทางสัก 2-3 วัน เขาพูดตรงๆ เลยว่าได้สปอนเซอร์มาช่วยซื้อหน่อย แต่ส่วนตัวชอบและตั้งใจจะใช้แน่นอน แม้การพูดดูจะตลกๆ ตรงไปตรงมา แต่ผลตอบรับดีมากจนกระเป๋าแบรนด์นั้นๆ กลายมาเป็นสปอนเซอร์หลักของเขาเลย

ไม่ได้นับครั้งอะไร แต่การยื่นน้ำใจของเขามากมายหลายครั้ง พอถึงจังหวะเขาขออะไรบางอย่าง คนรอบข้างจะพร้อมที่จะตอบรับด้วยความเต็มใจ

อย่างไรก็ตามก็มีข้อคิดที่น่าสนใจ

หากยื่นน้ำใจออกไปมากกว่านั้นคือมากกว่า 20 ครั้งโดยประมาณ แล้วไม่เคยขอความช่วยเหลืออะไรเลย คนอื่นจะดูเราเป็นพ่อนักบุญเกินไป ยิ่งนานวันความสัมพันธ์อาจกลายเป็นแบบนักบุญกับลูกศิษย์

ในกรณีแบบนี้ ส่วนตัวผมมองว่าถ้า nature เราไม่ได้พิเศษแบบนั้นจริงๆ ผมถือว่าไม่ healthy นะครับ คือให้มากไปจะทำให้เราเสียเอง ในที่สุดเราจะหมดแรงไม่สามารถให้ได้อีกต่อไปในระยะยาว

แม่ชีเทเรซ่าเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเธอเป็นคนที่มี nature พิเศษในเรื่องนี้ ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นได้อย่างเธอ

อย่ามองเพียงจำนวนครั้งที่เราทำดีเพื่อผู้อื่น
ขนาดของความรักที่ใส่ลงไปในความดีที่คุณทำให้ผู้อื่นต่างหากที่สำคัญ

ในทางกลับกันหากยื่นน้ำใจออกไปเทียบกับการขอความช่วยเหลือใกล้เคียงกัน เราจะถูกมองว่าเป็นการคาดหวังต่างตอบแทน ซึ่งนั่นก็ไม่ healthy อีก อาจจะสะท้อนตัวตนที่เป็นผู้รับมากเกินไปของเรา หรือแย่กว่านั้นคนรอบข้างมองว่าเรามีวาระซ่อนเร้นทำเพื่อผลประโยชน์

และหากเราขอโดยไม่ยื่นน้ำใจด้วยความจริงใจออกไปเลย เราจะกลายเป็นผู้กดขี่ข่มเหงอย่างสมบูรณ์

ทรัมป์ถือว่าจีนกอบโกยผลประโยชน์จากอเมริกามากเกินไป และพร้อมจะเล่นงานจีนกลับเพื่อเป็นการตอบแทน

ความสัมพันธ์ของคนเราก็แบบนี้หล่ะครับ มีให้มีรับ give and take กันอย่างเป็นธรรมชาติ แต่เพื่อความมีน้ำใจเราเป็นฝ่ายยื่นน้ำใจออกไปด้วยความเต็มใจดีกว่า ให้แล้วไม่ต้องเก็บมาคิดหรือนับครั้งอะไรให้วุ่นวาย

ส่วนการขอร้องให้คนอื่นทำอะไรเพื่อเรา อันนั้นมีบ้างก็ดีไม่แปลกครับ แต่เยอะไปคงไม่ดีครับ เพราะทุกวันนี้คนเราก็มีอะไรมากมายรัดตัวกันแทบทุกคน

 

ที่มา:  https://kanok-leelahakriengkrai.blogspot.com/2019/05/20-1.html
ออกแบบภาพ:  rainniedesign 

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง