1. อย่าทำงานจนไม่ได้พัก และอย่าพักจนไม่ได้งาน
งานไม่มีวันหมดไปจากชีวิต ยิ่งถ้าคุณเป็นคนจำพวกบ้างานด้วยแล้ว คุณอาจไม่เคยพบว่าตัวเองได้ “อยู่ว่างๆ เลย” ดังนั้นอย่าทำงานงานจนลืมการพัก เพราะถ้าคุณไม่รู้จักวางแผนหยุดพักบ้าง ร่างกายของคุณจะสั่งให้คุณหยุดเอง แล้วนั่นเราเรียกว่า “ป่วย” ในอีกด้านหนึ่ง สำหรับบางคนที่พักเก่งจนต้องให้เพื่อนคอยกระตุ้น ให้เจ้านายคอยตาม คุณก็คงต้องจัดสรรชีวิตใหม่ เติมหัวเชื้อแห่ง “วินัย” เพิ่มเข้าไป ไม่งั้นคุณลำบากแน่
2. Method (วิธีการ) อาจจะปรับเปลี่ยนไปตามเวลาและสถานการณ์ แต่ Mission (พันธกิจ) ต้องชัดเจนและถูกต้องเสมอ”
สำหรับคนที่เป็นผู้นำ ไม่ว่าจะผู้นำคริสตจักรหรือผู้นำองค์กรใดๆ คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า “คุณกำลังทำอะไรอยู่” และสำคัญขึ้นไปอีกว่า “ทำไมคุณต้องทำสิ่งที่คุณกำลังทำ” Mission ที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ และจะช่วยไม่ให้คุณหลงไปกับ “กับดักแห่งวิธีการ” ที่มีมากมายจนอาจพาคุณหลงทางล่องลอยไปกับเครื่องมือล้านแปดที่ไม่ได้พาคุณไปสู่เป้าหมายที่แท้จริงที่คุณควรจะไป
3. M ของการบริหารจัดการไม่ได้มีแค่ 4
ในวิชาบริหารจัดการพื้นฐาน คุณอาจเคยเรียนมาว่ามี M อยู่สี่อย่างที่ต้องดูแลให้ดี เพื่อให้องค์กรของคุณมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมาน นั่นคือ Man (กำลังคน) Money (กำลังเงิน) Material (เครื่องมือเครื่องใช้) และ Management (การบริหารจัดการ) แต่พี่น้องคริสเตียนครับ คุณควรต้องรู้ว่าพระเจ้ามี M ตัวที่ห้าที่มอบให้กับคุณแล้วผ่านความเชื่อ นั่นคือ Miracle (การอัศจรรย์) ซึ่งจะพาคุณไปสู่อีกมิติหนึ่งที่ไกลกว่าที่ตาของคุณจะมองเห็น เป็นการจัดเตรียมและทรงนำของพระเจ้าผู้อยู่ในชีวิตของคุณครับ
4. ถ้าคุณอายุเท่าผมหรือมากกว่าผม สิ่งที่คุณควรทำคือ ฟังคนรุ่นใหม่ให้มาก
มีคนเคยกล่าวว่า เราไม่ได้วางแผนเพื่ออนาคตของคนรุ่นหลัง แต่เรากำลังยืมสิ่งต่างๆ ของคนรุ่นหลังมาใช้ล่วงหน้าตอนนี้ต่างหาก นั่นหมายความว่า อนาคตเป็นของคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่ของคนรุ่นที่เลยวัยกลางคนไปแล้ว ดังนั้น ผู้ใหญ่ทั้งหลายครับ ลองฝึกที่จะฟังคนรุ่นใหม่ให้มาก เปิดโอกาสให้เขาได้ลองคิด ลองทำ ลองผิด ลองถูก ดูบ้าง ผู้ใหญ่อย่างเราควรทำหน้าที่ถ่ายทอดประสบการณ์ ฝึกฝนพวกเขาให้ชำนาญ และคอยเอามือประคองกันพวกเขาเวลาเสียศูนย์ และฉุดพวกเขาขึ้นยามสะดุดหกล้ม
5. อย่ามัวแต่นับเงินจนลืมนับวัน
ยิ่งอายุมากขึ้นผมก็ยิ่งเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น คำว่า “นับ” มีความหมายได้ด้วยว่า “ชั่งน้ำหนัก จัดสรร แจกแจง” สำหรับทุกสิ่งที่จะทำในเวลาที่เหลืออยู่ คุณควรจะคิดไตร่ตรองให้ดี ชั่งน้ำหนักให้ดีว่ามันสำคัญและจำเป็นจริงๆ ใช่มั้ย มันมีคุณค่าที่คุณจะจัดสรรเวลาชีวิตให้กับสิ่งนั้นใช่หรือไม่ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ต้องคิดให้แม่นๆ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง และที่เป็นตลกร้ายคือ คุณไม่มีทางรู้ได้ว่าคุณ “เหลือวัน” ของชีวิตแค่ไหน อาจจะใกล้หมดแล้วก็ได้ ดังนั้น ทุกวันที่ยังมีลมหายใจ จงใช้ให้คุ้มค่าและระมัดระวังเสมอ
6. สามคนที่ควรมีอยู่ในชีวิต
หนึ่ง…เปาโล คนที่สร้างชีวิตคุณ คนที่นำ สอน ฝึกฝนคุณ เตือนสติคุณ สอง…บารนาบัส คนที่หนุนใจคุณ ให้อภัย อยู่เคียงข้าง พร้อมให้โอกาสใหม่เมื่อคุณผิดพลาดล้มเหลว สาม…ทิโมธี คนที่คุณสร้าง คนที่คุณช่วยให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น คนที่พร้อมจะเฝ้าดูและเรียนรู้จากคุณ วันนี้คุณมีคนทั้งสามอยู่รอบชีวิตคุณแล้วหรือยัง? ถ้ามีแล้ว ก็จงรักษาพวกเขาไว้ให้ดีที่สุดนะครับ
7. เราอาจอยากให้ “เร็ว” แต่พระเจ้าบอกให้ “รอ” เราบอกขอ “เดี๋ยวนี้” แต่พระองค์ว่า “เดี๋ยวก่อน”
จงเรียนรู้ที่จะอยู่ในเวลาของพระเจ้าและไปกับวิธีของพระองค์ เพราะสิ่งดีที่สุดอาจกำลังรออยู่ จงฝึกที่จะนิ่งให้พอและรอให้เป็น
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น