1. ถ่อมใจ ถ่อมใจ และถ่อมใจ
ปีนี้ผมได้รับพระคุณมากมายในการทำงานวิจัยเพื่อเขียนดุษฏีนิพนธ์จนสำเร็จและจบปริญญาเอกพันธกิจศาสตร์หลักสูตรร่วมระหว่าง AGST Alliance และสถาบันพระคริสต์ธรรมกรุงเทพ (BBS) การศึกษาพระคัมภีร์ อ่านหนังสือมากมาย และการออกไปทำงานวิจัยจากพี่น้องคริสตจักรทั่วประเทศ ได้หล่อหลอมจิตใจให้ตระหนักว่าแม้ผมได้พบความรู้ใหม่จากงานวิจัย แต่ก็มีอะไรอีกมากมายที่ผมยังต้องเรียนรู้ แม้จะจบก็เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น ความถ่อมใจจึงเป็นสิ่งที่ผมได้รับมากที่สุด
สุภาษิต 16:16-18 ได้ปัญญาก็ดีกว่าได้ทองคำสักเท่าใด ที่จะเลือกเอาความรอบรู้ก็ดีกว่าเงิน ทางหลวงของคนชอบธรรมหันออกจากความชั่วร้าย บุคคลผู้ระแวดระวังทางของตนก็สงวนชีวิตของเขาไว้ ความเย่อหยิ่งเดินหน้าการถูกทำลาย และจิตใจที่ยโสนำหน้าการล้ม
ความถ่อมใจยังเป็นคำแนะนำแรกที่ผมได้รับหลังจากการบอกกล่าวอย่างเป็นทางการว่าจบแล้ว เวลามีความสำเร็จอะไรเข้ามาบางทีก็เป็นเหมือนดาบสองคมที่มีทั้งคุณและโทษที่บางทีหากไม่ระมัดระวังก็อาจเฉีอนตัวเองได้เหมือนกัน
2. บ่นน้อยหน่อย มุ่งมั่น พึ่งพาพระเจ้ามากหน่อย จิตใจจะเบิกบาน
สำหรับผม การบ่นหลายครั้งสะท้อนความไม่พอใจ และไม่ยอมรับสิ่งยากลำบากที่เข้ามาในชีวิต แน่นอนการบ่นไม่ได้ผิดไปทั้งหมด แต่หากเราเปลี่ยนการบ่นเป็นการอธิษฐานและขอบพระคุณจะช่วยให้เรามีกำลังใจมากขึ้นแม้สถานการณ์อาจไม่ได้เปลี่ยนทันที
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาผมมีความท้าทายหลายเรื่องประดังเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2021 ที่ได้ทำงานวิจัยที่ต้องออกแรงเป็นอย่างมาก การบ่นบ้างก็น่าจะไม่ใช่ปัญหา ผมตั้งใจและสัญญากับภรรยาแต่แรกแล้วว่าจะไม่หลุดบ่นออกมาเลยในระหว่างเรียนปริญญาเอก ขอบคุณพระเจ้าที่ทำได้ดี จนกระทั่งช่วงสุดท้ายที่ส่งดุษฎีนิพนธ์ไปต่างประเทศเพื่อตรวจ มีการส่งกลับไปมาอยู่หลายครั้ง จริงๆ เกือบจะบ่นออกมาแล้ว แต่ขอบคุณพระเจ้าที่อดกลั้นใจจนสำเร็จด้วยดี
ผมมีข้อพระคัมภีร์ที่เป็นกำลังใจในเรื่องนี้คือ 2 โครินธ์ 4:17 เพราะว่าความยากลำบากชั่วคราวและเล็กน้อยของเรา จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีนิรันดร์มากมายอย่างไม่มีที่เปรียบ
เวลาที่พบกับความท้าทายในงานรับใช้ที่ต้องออกแรงมากๆ ให้เราบ่นน้อยหน่อย มุ่งมั่น พึ่งพาพระเจ้ามากหน่อย จิตใจจะเบิกบาน
3. การเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆ อย่างมีวินัย ท้ายที่สุดจะส่งผลดีอย่างยิ่งใหญ่แก่เรา
เรื่องนี้ผมเรียนรู้จากการอ่านหนังสือ มีหนังสือหลายเล่มที่อยากอ่าน แต่ละเล่มหนาเป็นร้อยๆ หน้า วิธีที่จะอ่านจบคือตั้งใจอ่านอย่างมีวินัยหน้าต่อหน้าจนจบ พอทำสิ่งเล็กๆ อย่างมีวินัย ลองกลับมาทบทวนดู ปรากฏว่าปีนี้อ่านจบไปได้หลายเล่ม ได้ความรู้ พัฒนามุมมองในเรื่องต่างๆ ไปได้เยอะ ทำให้สามารถฟัง พูด สอน เทศนา หรือเขียนได้ดีขึ้นมาก
ในชีวิตและการรับใช้ก็เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆ อย่างมีวินัย จะทำให้เห็นความก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน
1 ทิโมธี 4:15 จงปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้และทุ่มเทตัวเองให้กับหน้าที่ดังกล่าว เพื่อให้ทุกคนเห็นความก้าวหน้าของท่าน
“วินัยอาจเป็นเหมือนยาขม แต่การทำได้กับไม่ได้นั้นผลแตกต่างกันอย่างมาก”
4. ชนะด้วยการถกเถียงจะสูญเสียความสัมพันธ์ แต่ความรักจะเอาชนะทุกสิ่งในที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวประเสริฐแก่ผู้อื่น หรือการรับใช้เป็นทีมในคริสตจักร ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผลวิจัยยืนยันชัดเจนว่าความรักชนะใจทำให้คนมากมายกลับมาหาพระเจ้า การถกเถียงเพื่อพิสูจน์ว่าความคิดของเราเหนือกว่าอีกคนยิ่งสร้างอคติ แม้จะชนะก็ไม่สร้างการยอมรับด้วยใจ
โคโลสี 4:6 จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้ว่าควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร
ความรักจะเป็นเครื่องประสานความสัมพันธ์ เมื่อเราพูดความจริงด้วยหัวใจอย่างพระคริสต์ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ตาม ผู้ฟังจะเกิดความรู้สึกแตะต้องใจ ประทับใจพระเจ้า
5. เวลาจะชื่นชมคนให้พูดออกมาดังๆ
ความสุขอยู่ตรงนี้หล่ะครับ เวลามีพี่น้องรับใช้ด้วยกัน ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว การให้กำลังใจ ขอบคุณกันและกันเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าผลลัพธ์ จะเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากหากเราหมั่นขอบคุณพี่น้องที่มีส่วนรับใช้พระเจ้าด้วยกัน เพราะจะทำให้ทั้งตัวเราและทีมงานมีความสุขมาก เพราะเขาตั้งใจทำเพื่อพระเจ้าด้วยใจ และทำได้เท่าที่ทำได้
ความเข้าใจกันด้วยรัก จะทำให้เกิดการพัฒนาได้ดีกว่าการต่อว่ากันแรงๆ
โรม 12:15 จงชื่นชมยินดีกับผู้ที่มีความชื่นชมยินดี จงร้องไห้กับผู้ที่ร้องไห้
ผมชอบที่จะชื่นชมคนออกมาดังๆ ไม่ว่าจะพูดต่อหน้าพี่น้องหรือเขียนชื่นชมขอบคุณพี่น้องออกมาดังๆ ในเฟสบุ๊ค พี่น้องมีความสุขผมก็มีความสุขไปด้วยครับ
6. การเลือกทีมงานต้องดูทัศนคติบวกก่อนความสามารถ
พี่น้องประคับประคองกันด้วยความรักเสมอ และหลายครั้งความรักคือการรอคอยการเติบโตฝ่ายวิญญาณ ไม่รีบร้อนนำหน้าพระเจ้า เพราะหลายครั้งการให้บางคนขึ้นมารับใช้ในบทบาทสำคัญๆ ก่อนที่เขาจะเรียนรู้ในความสัตย์ซื่อในสิ่งเล็กน้อย อาจไม่เป็นพรแก่เขาในระยะยาวได้
ทีมงานรับใช้มีเป้าหมายชัดเจนในความสำเร็จระยะสั้น เช่น ทีมนมัสการ ทีมมีเดีย เมื่อจบรอบนมัสการก็ถือเป็นความสำเร็จเล็กๆ ทุกสัปดาห์ แต่เราต้องไม่ลืมว่าการเปลี่ยนแปลงชีวิตฝ่ายวิญญาณตามหลักพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ฉะนั้นเวลาเลือกทีม ขอให้มองที่ลักษณะชีวิตที่ดีในทางพระเจ้าก่อน เช่น ความสัตย์ซื่อ ความถ่อมใจยอมรับใช้พี่น้อง ความตั้งใจจริงในการรับผิดชอบ
1 ทิโมธี 4:16 จงเอาใจใส่ทั้งตัวท่านและคำสอนของท่าน จงประพฤติสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ เพราะเมื่อทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสามารถช่วยทั้งตัวท่าน และทุกคนที่ฟังท่านให้รอดได้
เรื่องสำคัญที่สุดไม่ใช่การทำอะไรๆ ได้ในคริสตจักร แต่เป็นการยอมจำนนต่อพระเจ้า รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตตามพระวจนะ คนที่คิดแบบนี้จะเป็นทีมงานรับใช้ที่ยอดเยี่ยมแน่นอนเพราะเขาจะยำเกรงพระเจ้า และสายตาของเขาจะจับจ้องที่พระเจ้าเสมอ
7. ต้องช่วยกันยกเลิกวัฒนธรรมเมื่อไม่พอใจกัน ก็ออกจากกลุ่มแชท หรือเลิกเป็นเพื่อนในสื่อโซเชี่ยล
ปีที่ผ่านมาผมเผอิญเห็นเรื่องนี้อยู่ อาจจะไม่บ่อยแต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย วิธีที่ดีในเชิงเทคนิคคือกลุ่มควรตั้งเท่าที่จำเป็น มีวัตถุประสงค์เจาะจง หากเป็นงานที่มีระยะเวลาจบ ก็แจ้งไปเลยว่าเมื่อจบงานแล้วจะขอปิดกลุ่ม เวลาเราแชร์ข้อมูลก็ควรเคารพกติกาของกลุ่มคือแชร์เนื้อหาที่ตรงตามวัตถุประสงค์ ไม่แชร์เรื่องซ้ำๆ ไปทุกห้องซึ่งอาจเป็นการรบกวนผู้อื่นได้ เมื่อเปิดกลุ่มต้องถามตัวเองทุกครั้งว่าจำเป็นต้องสร้างกลุ่มไหม กลุ่มที่เปิดใช้ทำอะไร เชิญใคร ถ้าให้ดีควรคุยกันส่วนตัวก่อนว่าจะขอเชิญเข้ากลุ่มอะไร เพราะอะไร
อย่างไรก็ตามการพูดคุยแสดงความเห็นในกลุ่มอาจะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนก็ขาดทักษะในการเขียนข้อความ ทำให้เวลาอ่านดูแรง ทั้งๆ ที่ตัวจริงไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ถ้าเราเป็นคนขาดความระวังในการเขียน เราต้องฝึกฝนทักษะนี้ หรือไม่ก็เลือกที่จะคุยกันหน้าต่อหน้าจะดีกว่า
เอเฟซัส 4:2-3 จงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน
พยายามให้ดีที่สุดในการสื่อสารโดยเฉพาะในสื่อดิจิทัล ต้องช่วยกันยกเลิกวัฒนธรรมเมื่อไม่พอใจกันก็ออกจากกลุ่มแชทออนไลน์ หรือเลิกเป็นเพื่อนในสื่อโซเชียล ให้เราเลือกที่จะอดทนต่อกันและกันจนถึงที่สุดก่อนดีกว่าครับ
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น