1.ความกระตือรือร้น ไม่ได้ผกผันตามอายุ
แต่ความกระตือรือร้น ผกผันตามpassionที่เรามี
เรียนรู้ที่จะถ่ายทอด แบ่งปัน passionนั้น ให้กับใครบางคน เพื่อเก็บpassionนั้นให้สด ใหม่และไปต่อได้ เมื่อpassionนั้นไปต่อได้ ค่อยหาทีมที่จะมาช่วยกันMake it happens!!
2.ความไว้วางใจ เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในทุกความสัมพันธ์ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้นำ ความไว้วางใจ หาซื้อไม่ได้ ต้องสร้าง และตั้งใจสร้าง ..ทุกๆวัน ทุกๆการประชุม ทุกๆบทสนทนา ทุกๆการฟัง ทุกๆการตัดสินใจ หรือทุกๆZoom mtg, ทุกๆTownhall เป็นโอกาสในการสร้างความไว้วางใจ ความไว้วางใจไม่มีscaleวัด มีก็มี ไม่มีก็ไม่มี ไม่มีครึ่งๆกลางๆ
3.ความสัมพันธ์ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติไม่ได้ ต้องตั้งใจ “work on it” แต่ถ้าความสัมพันธ์ที่ต้องคอยประนีประนอม (Compromise) อยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่เป็นตัวเอง จะเหนื่อย และจะลากไปไม่ได้ไกล และไม่ได้นาน เสียทั้งเวลา และความรู้สึก พยายามหัดฟังเสียงความต้องการของตัวเอง ไม่ควรให้ คุณค่าเท่ากันกับทุกความสัมพันธ์ ควรฉลาดเลือก “เวลา” เป็นสิ่งมีค่า ควรลงทุน”เวลา” กับ ความสัมพันธ์ที่ควรลงทุนเวลา
4.ชีวิต..เป็นความมหัศจรรย์
ถ้าอยากจะค้นพบ ความมหัศจรรย์ของชีวิต เราจะต้องหัดที่จะอยู่นิ่งๆ ฟังเสียงลมหายใจของตัวเอง สังเกตุสิ่งรอบตัว คนรอบตัว ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวพันกัน ชีวิตทุกชีวิตเป็นส่วนประกอบของความลงตัว ที่มีความสำคัญและมีความหมาย
“เวลาเข้าไปเดินในป่าอันกว้างใหญ่(หรืออยู่ใต้เบื้องมหาสมุทร) หัดสังเกตุสิ่งรอบตัว สังเกตุแสงที่ลอดผ่านใบไม้แต่ละชนิด พุ่มไม้เล็กๆที่อยู่ตามพื้น หรือ มวลเมฒที่ลอยตำ่ๆ หายใจเข้าลึกๆรับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปทั่วปอด ปล่อยให้ร่างกายสัมผัสกับลมที่พัดมา และปล่อยให้ลมแล่นผ่านหยอกล้อกับผิวของเรา ฟังเสียงนกที่ร้องอยู่ใกล้ๆ ฟังเสียงลมที่เคลื่อนต้นไม้อยู่ข้างบน เสียงต้นไม้ที่เบียดกันจนส่งเสียงเพราะแรงลม มีหลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกินที่ส่งเสียง และพวกมันล้วนมีชีวิต พวกมันไม่ใช่เป็นเพียงต้นไม้ และสัตว์ป่า (หรือสัตว์ทั้งหลายที่แหวกว่ายในทะเล) พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิต ที่ถูกสร้างขึ้นมา ที่สามารถมองเห็น หายใจ ฟัง และรับรู้ความรู้สึกได้เหมือนอย่างเรา
ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวพันกัน
ถ้าเราอยากค้นพบ ความมหัศจรรย์ของชีวิต เราต้องหัดที่จะสังเกต นิ่ง ฟัง ..และปล่อยให้เราเกี่ยวพันเป็นส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์”
แปลจากป้ายที่ติดไว้ในป่า Monteverde Reserve, Costarica
5.การบ้านชีวิต หรือบทเรียนชีวิต เป็นของใครของมัน อย่าเสียเวลาแสดงความคิดเห็นกับบทเรียนชีวิตของคนอื่น ทำการบ้านชีวิตของตัวเองให้ดี ..หลายๆครั้งเราเห็นสิ่งที่คนอื่นพูดขัดแย้งกับสิ่งที่เขาทำ หรือมีวาระซ่อนเร้น (hidden agenda) หรือเอาหน้า หรือ hyprocrite แล้วทำให้เราหงุดหงิด จำไว้ว่า อย่าไปยุ่งกับบทเรียนชีวิตของคนอื่น การบ้านชีวิตของใครก็ของมัน คำตอบอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีคุณค่าที่ยึดถือในชีวิตแตกต่างกัน อาจไม่เหมือนกันกับเราทั้งSet แต่น่าจะมีบางอย่างที่ซ้ำกัน ใช้เวลาในการสำรวจและท้าทายคุณค่าที่เรายึดถือแท้จริงดีกว่า เพื่อจะทำให้แข็งแกร่งขึ้นจนเป็นอุปนิสัย (Character) ของเรา ไม่ต้องไปเสียเวลายุ่งกับคุณค่าที่คนอื่นยึดถือ
6.อย่าลืมหาเวลาที่จะแสดงความขอบคุณ
การที่เราสามารถแสดงความขอบคุณได้บ่อยๆอย่างจริงใจ จะช่วยให้เรามองไปที่คนอื่น มองหาสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ควรจะขอบคุณ มองออกนอกตัวเอง เห็นคุณค่ากับสิ่งที่คนรอบตัวหยิบยื่นให้ ไม่ว่าจะเป็น พระเจ้า พ่อแม่ ลูกๆ ทีมงาน แม่บ้าน คนขับรถ คนแปลกหน้า พนักงานในร้านอาหาร บนเครื่องบิน ในโรงแรม ถ้ามีโอกาส ที่จะแสดงความขอบคุณอย่างเป็นรูปธรรมให้รีบทำ โอกาสไม่ได้มาบ่อยๆ และไม่ได้อยู่นานๆ อย่าคิดมาก
ให้รีบทำเลย!!
7.ความเมตตา เป็นทักษะที่ฝึกได้ มองหาโอกาสที่จะแสดงความเมตตาเมื่อมีโอกาส
ความเมตตาไม่ใช่ความอ่อนแอ
ความเมตตา ไม่ใช่การทำงานแบบไม่มีกลยุทธ์ในความคิด
ความเมตตา ไม่ใช่การขาด ความคิดเชิงวิเคราะห์
ความเมตตา ไม่ได้เป็นเรื่องของอารมณ์
ความเมตตา คือเรื่องทัศนคติ
ความเมตตา คือความถ่อมใจ ที่รู้ว่า ทุกความคิด ทุกข้อมูล (data) ที่มี ทุกอำนาจที่อยู่ในมือ ทุกสายสัมพันธ์ (connections) ทุกโอกาส เป็นพระคุณ เราไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่น
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น