ซีรีส์ คำถามเด็กหลังห้อง ตอนที่ 4
หลายปีก่อนตอนผมเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ขณะกำลังขับรถอยู่ ตำรวจเปิดหวอตามมาเรียกให้จอด ในใจคิดว่าโดนจับเรื่องขับรถเร็วแน่ๆ ซึ่งก็จริง ตำรวจบอกเราขับ 90 ไมล์ต่อชั่วโมง (ทางด่วนจำกัดความเร็วแค่ 75 ไมล์ต่อชม.) และแจกใบสั่งให้ เมื่อเห็นตัวเลขค่าปรับหัวใจผมแทบหล่นไปที่พื้น เพราะต้องจ่ายค่าปรับถึง $800 โอ้โหทำไมมันแพงขนาดนี้ (ตอนนั้นผมมีรายได้จากการเป็นผู้ช่วยสอนประมาณเดือนละ $1300) ทำไมกฎหมายเมืองนี้โหดจังเลย ไม่ชอบเลย ไม่ยุติธรรมเลย แม้รู้ตัวว่าตัวเองทำผิด แต่ก็ไม่พอใจน้ำหนักของการลงโทษอยู่ดี สุดท้ายเรื่องจบลงที่ผมก็ต้องจ่ายค่าปรับแบบจำใจ
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงโทษของพระเจ้าในนรกว่าไม่ยุติธรรม นั่นคือ ผู้ไม่เชื่อทำบาปเพียงไม่กี่ครั้งบนโลก ทำไมพระเจ้าต้องลงโทษคนเหล่านี้ตลอดกาลในนรก ซึ่งเป็นการลงโทษที่มากเกินไป โหดเกินไปหรือเปล่า พระเจ้าน่าจะลงโทษในนรกชั่วคราวก็พอ เมื่อชดเชยหมดแล้วก็ให้ขึ้นสวรรค์ เรามาดูกันว่าอาจารย์ที่ Biola University เขาตอบคำถามนี้อย่างไร
————————————–
คำถาม: ทำไมการลงโทษนิรันดร์จึงยุติธรรม?
วิเคราะห์คำถาม:
นี่ก็เป็นอีกคำถามที่พยายามโจมตีลักษณะของพระเจ้าในด้าน “ความรัก และ ความยุติธรรม” พระเจ้าที่เปี่ยมด้วยความรักต่อมนุษย์ทำไมจึงลงโทษเกินกว่าเหตุขนาดนี้ โดยมองว่ามนุษย์ทำบาปเพียงชั่วคราวบนโลก ดังนั้นการลงโทษแบบนิรันดร์ในนรก จึงเป็นการลงโทษที่ไม่ยุติธรรม
แน่นอนว่ามีคริสเตียนบางกลุ่มพยายามตอบคำถามนี้ โดยการตีความนรกว่าเป็นการลงโทษแบบชั่วคราว (โดยการตีความคำกรีก Aionios ว่าหมายถึง ช่วงเวลานานแต่ไม่นิรันดร์) ซึ่งผมไม่เห็นด้วยแต่ไม่ขอลงรายละเอียด ณ ตรงนี้
แนวทางการตอบคำถาม:
แนวทางที่ 1 – บทลงโทษขึ้นอยู่กับผู้ออกกฎหมาย ไม่ใช่ความรู้สึกผู้กระทำผิด
จากตัวอย่างที่ผมโดนจับเรื่องขับรถเร็ว แน่นอนว่าผมมีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจ มีสิทธิ์ไม่พอใจค่าปรับ และเรียกร้องความยุติธรรม แต่เนื่องจากผมไม่มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนกฎ ผมจึงต้องทำตามและจ่ายค่าปรับนั้นแม้ว่าไม่ชอบก็ตาม กล่าวคือ บทลงโทษถูกกำหนดโดยผู้ออกกฎหมาย ไม่ได้ถูกกำหนดโดยความรู้สึกผู้กระทำผิด
พระเจ้าเป็นผู้สร้างจักรวาล และกำหนดกฎเกณฑ์ทุกอย่าง ก็ย่อมกำหนดกฎเกณฑ์การลงโทษด้วยเช่นกัน พระเจ้าได้สำแดงรูปแบบการลงโทษผ่านทางพระคัมภีร์หลายครั้งว่า นรกจะมีลักษณะเป็นนิรันดร์ เช่น 2ธส.1:7-9, วว.20:10, มธ.25:46
ดังนั้นแม้ว่าเรามีสิทธิ์ตั้งคำถาม มีสิทธิ์ไม่พอใจ แต่เราก็จำเป็นต้องรับรูปแบบของนรกนิรันดร์นี้อยู่ดี มากไปกว่านั้นพระเจ้าได้กำหนดเงื่อนไขความรอดและการลงโทษไว้แล้ว และพระเจ้าก็ให้สิทธิ์เราเป็นผู้เลือกและตัดสินใจเองระหว่าง “นรกนิรันดร์” กับ “สวรรค์นิรันดร์”
แนวทางที่ 2 บทลงโทษขึ้นกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ระยะเวลาในการทำผิด
ลองคิดเล่นๆ ว่า หากนาย A เจตนาควักปืนมายิง นาย B เสียชีวิตภายใน 10 วินาที เขาจะต้องจำคุกกี่ปีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าคงไม่มีประเทศไหนลงโทษให้นาย A จำคุก 10 วินาที ในทำนองตรงกันข้ามผมเคยขโมยเงินพ่อครั้งละ 5 บาทเพื่อไปซื้อสติกเกอร์จากขนมโดราเอมอน (แอบดักแก่นิดนึง) แต่สุดท้ายพ่อก็จับได้ และโดนพ่อก็ตีประมาณ 10 ครั้งเท่านั้นเอง ทั้งที่ผมแอบขโมยอยู่เป็นหลายเดือน จะเห็นว่าบทลงโทษส่วนใหญ่ถูกพิจารณาจาก “ความเสียหายของการทำผิด” มากกว่า “ระยะเวลาในการทำผิด” ดังนั้นคำถามจึงอยู่ที่ว่า “ผลการทำผิดของผู้ไม่เชื่อ” มีมากน้อยเพียงไร
ลองคิดต่ออีกว่า บทลงโทษอันไหนจะมากกว่ากันระหว่าง หยิกแก้มน้องสาวของตัวเอง กับ หยิกแก้มนายกรัฐมนตรี แน่นอนว่าเราคงตอบว่านายกรัฐมนตรี เพราะว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญมากกว่า ดังนั้นความเสียหายจึงมากกว่า ทำนองเดียวกันเมื่อมนุษย์ปฏิเสธพระเจ้าผู้ที่สำคัญที่สุดในจักรวาล ก็ย่อมโดนลงโทษแบบหนักที่สุดเช่นกัน
“แล้วพวกท่านคิดดูซิว่าคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และถือว่าพระโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์นั้นเป็นมลทิน และดูหมิ่นพระวิญญาณแห่งพระคุณ สมควรจะถูกลงโทษหนักกว่าสักเท่าใด” (ฮบ.10:29)
แนวทางที่ 3 – ลักษณะของพระเจ้าเป็นนิรันดร์
(1) ลักษณะของนรก
เราควรเข้าใจลักษณะของนรกเบื้องต้นกันก่อน Sean McDowell ผู้เขียนหนังสือหลายเล่มในเรื่องการปกป้องความเชื่อและเป็นอาจารย์ที่ Biola University กล่าวว่า “เราจะเข้าใจนรกมากขึ้น หากเราเข้าใจว่าอะไรที่ไม่อยู่ในนรก”
จาก พระธรรม 2 เธสะโลนิกา 1:9 “นรก” คือ สถานที่ไม่มีพระสิริของพระเจ้า ดังนั้น นรกจึงเป็นสถานที่ถูกแยกเอาไว้สำหรับคนที่ปฏิเสธความรักของพระเจ้า หรือตัดสินใจไม่อยากเป็นบุตรของพระเจ้า
(2) พระเจ้าเคารพการตัดสินใจของมนุษย์
พระเจ้าให้มนุษย์มีอิสรภาพในการตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเอง และเมื่อมนุษย์ตัดสินใจปฏิเสธความรัก ไม่อยากมีความสัมพันธ์กับพระองค์ พระเจ้าก็เคารพการตัดสินใจของคนเหล่านั้น นรกจึงเป็นสถานที่เก็บคนเหล่านี้เอาไว้
(3) พระเจ้ามีสภาพนิรันดร์
เนื่องจากพระเจ้ามีสภาพนิรันดร์ การแยกคนที่ไม่อยากมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ก็ย่อมเป็นการแยกแบบนิรันดร์ จึงสมเหตุสมผลมากที่นรกจึงต้องมีสภาพนิรันดร์ เป็นทางเลือกของเราเองที่จะเลือกระหว่าง “อยู่กับพระเจ้านิรันดร์” กับ “แยกจากพระเจ้านิรันดร์”
————————————–
ผมหวังว่า คำตอบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้อ่านมั่นใจในสิ่งที่เชื่อ และสามารถปกป้องความเชื่อของตัวเองได้ดีขึ้นนะครับ
“เราหวังว่าทุกข้อสงสัย จะมีคำตอบที่มีเหตุผล”
บทความ: ดร.อาณัติ เป้าทอง
ออกแบบภาพ: Mantana
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น