สิ่งหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นแก่นหลักของการเดินติดตามพระเจ้านั่นคือการนมัสการ หากคุณเป็นคริสเตียนสามารถข้ามไปอ่านที่ย่อหน้าถัดไปได้เลย แต่หากคุณไม่ใช่คริสเตียนขอเล่าสั้นๆ ตรงนี้ก่อนว่า การนมัสการ สำหรับคริสเตียนเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเป็นวิธีการสนทนาหรือพูดคุยกับพระเจ้าซึ่งต่างจากการสนทนาทั่วๆ ไปคุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความหมายของการนมัสการพระเจ้าได้
https://www.gotquestions.org/Thai/Thai-christian-worship.html
สำหรับคริสเตียนแล้วการนมัสการคือหัวใจของการเข้าเฝ้าพระเจ้าเพราะจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตผู้นมัสการและเชื่อว่าคุณก็อาจจะเคยได้สัมผัสถึงประสบการณ์เหล่านั้น การนมัสการสามารถเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้และกับใครก็ได้
และในยุคปัจจุบันนี้การนมัสการเกิดขึ้นได้บ่อยขึ้นบนโลกโซเชี่ยล เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยคริสเตียนในเมืองวิลมอร์ รัฐเคนตักกี้ ได้จัดรอบนมัสการสำหรับกลุ่มนักเรียนและชุมชนในละแวกเพื่อนบ้านซึ่งมักจะจัดอยู่เป็นประจำ แต่เกิดเหตุการอันน่าอัศจรรย์ที่การนมัสการครั้งล่าสุดนี้ได้รับเคลื่อนไหวโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้การนมัสการดำเนินต่อเนื่องไปถึง 13 วันเต็มๆ แบบที่ไม่ได้มีการเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าและยังคงดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยสามารถรับชมผ่าน Live Stream ได้
https://www.youtube.com/live/wBYlO5AmYOU?feature=share
เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักเพียงชั่วข้ามคืนเมื่อมีสมาชิกผู้ใช้ Tiktok ที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการนมัสการได้โพสคลิปบรรยากาศในการนมัสการออกไปจนมีผู้เข้าชมสูงสุดถึง 77.9 ล้านวิว พร้อมติดแฮชแท็กว่า #asburyrevival บรรยากาศของการนมัสการในคลิปเต็มไปด้วยผู้คนกำลังร้องเพลงนมัสการ โดยสิ่งที่น่าสังเกตุจากในคลิปคือผู้เข้าร่วมนมัสการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ (Generation Z) สมาชิก Tiktok ท่านหนึ่งกล่าวถึงข้อสังเหตุนี้ว่า
“จริงหรือที่คนรุ่นใหม่ หรือ Generation Z มักเดินออกห่างจากคริสตจักร
เปล่าเลยพวกเขาเดินออกห่างจากความเป็นศาสนา
เขาเลือกที่จะอยู่ให้ไกลจากที่ที่พระเจ้าไม่ได้รับโอกาสให้เคลื่อนไหวอย่างมีเสรีภาพ
เขาอยากแสวงหาความจริงที่สดใหม่
เขาไม่ต้องการชมการแสดงบนเวที
แต่ต้องการสัมผัสการทรงสถิตของพระเจ้ามากกว่า”
เมืองวิลมอร์มีประชากรเพียง 6,000 คนเท่านั้นแต่เหตุการณ์นี้ได้พาผู้คนนับหมื่นมาที่แห่งนี้เพื่อจะสัมผัสการทรงสถิตของพระเจ้า
“หากไม่ได้รับอิทธิพลจากกลไกการทำงานของโซเชี่ยลมีเดีย ก็คงไม่มีใครทราบถึงเหตุการณ์ครั้งนี้” มาร์ค วิธเวิร์ธ รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย กล่าว
ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ดร. เควิน เจ บราวน์ เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยว่า จำนวนของผู้คนที่มาร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้มากเสียจนฝ่ายดูแลอำนวยความสะดวกของเมืองวิลมอร์ไม่สามารถจะรองรับได้ด้วยทรัพยากรณ์ทั้งหมดที่พวกเขามี และถึงกับต้องให้เจ้าหน้าที่จราจรบังคับทิศทางให้การจราจรเลี่ยงออกไปจากเมืองวิลมอร์
บราวน์เปิดเผยต่อไปว่าเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางมหาวิทยาลัยจำเป็นต้องประสานกับหน่วยงานในท้องที่ของรัฐเคนตักกี้เพื่อจัดสรรเพื่อสำหรับการจัดรอบนมัสการในพื้นที่ละแวกมหาวิทยาลัยและให้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยมีไว้เพื่อนักเรียนนักศึกษาเท่านั้น
“ประสบการณ์ที่ผมได้รับในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้
เป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยได้พบมาก่อนเลยในชีวิต”
บราวน์กล่าว
เหตุการณ์สุดไวรัลในครั้งนี้ดึงดูดผู้นำคริสเตียนที่มีชื่อเสียงทั้งผู้นำนมัสการและนักดนตรีเข้ามาเป็นพยานถึงการนมัสการแห่งการเคลื่อนไหวอย่างอัศจรรย์ในครั้งนี้ รวมถึง ไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาซึ่งได้ทวีตข้อความไว้ว่า
“พระองค์ทรงทำงานที่แอสบิวรี่ และชีวิตก็จะถูกเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์”
ผู้เขียน : ปาล์ม เลวีวงศ์
ที่มา : https://www.insider.com/asbury-revival-university-disperses-crowds-after-viral-tiktoks-2023-2
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น