แน่นอนคริสต์มาสคือเทศกาลที่คนนิยมที่สุด แต่ทุกวันนี้ผู้คนไม่ได้เฉลิมฉลองคริสต์มาสในแบบที่พวกเขาเคยทำ มีประเพณีหลายอย่างถูกละเลย เช่น การแลกของขวัญ การร้องเพลงแครอลิ่ง
ผลสำรวจในปี 2013 บอกว่ามี 36% ที่เคยไปร้องเพลงแครอลิ่งในวัยเด็ก แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 16% ที่ยังไปแครอลิ่งอยู่ บางโรงเรียนในสวิสเซอร์แลนด์สั่งงดการร้องเพลงแครอลิ่งช่วงคริสต์มาสด้วยเหตุผลด้านความเชื่อหลากหลาย หรือสำหรับคนทั่วไปแครอลิ่งถูกมองเป็นการแสดงของคณะร้องเพลงตามโรงแรม ตามศูนย์การค้า คุณค่าของบทเพลงแครอลิ่งกำลังถูกกลืนให้เหลือ
เพียงแค่สีสันของคริสต์มาสเท่านั้น
แม้ดูเหมือนจะไม่เป็นที่แน่ชัดว่าบทเพลงแครอลมีจุดเริ่มต้นมาอย่างไร บางแหล่งเชื่อว่าเริ่มในศตวรรษที่ 4-5 โดยเนื้อเพลงเขียนขึ้นเป็นภาษาละตินเพื่อระลึกถึงการประสูติของพระเยซู จนในศตวรรษที่ 13 นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี จึงได้เอาเพลงเหล่านี้ที่มีจังหวะสนุกสนานมาใช้ให้เข้ากับช่วงเฉลิมฉลองคริสต์มาส จนเป็นนิยมและแพร่หลายไปทั่วยุโรป
ส่วนบางเรื่องราวก็อ้างว่าเพลงแครอลเริ่มมาจากลุ่มคนยากชนที่ไปร้องเพลงตามบ้านคนที่มีเงิน เพื่อแลกกับอาหารหรือเครื่องดี่ม อีกแนวคิดหนึ่งบอกว่าเป็นกลุ่มที่เดินทางไปร้องเพลงโดยเคาะตามบ้านทีละบ้าน เพราะพวกไม่ถูกอนุญาตให้ร้องเพลงในโบสถ์
ส่วนรูปแบบการร้องเพลงแครอลิ่ง น่าจะเริ่มมาจากความหมายของคำภาษากรีกที่หมายถึง ร้องเพลงวนหลายๆ รอบ หรือเต้นระบำด้วยความชื่นชมยินดี และพัฒนาต่อๆ มา สำหรับปัจจุบันเมื่อมองในแง่การสื่อสารข่าวประเสริฐ ถือได้ว่า การร้องเพลงแครอลิ่ง คือโอกาสที่คนทั่วไปจะได้ฟังและเข้าถึงบทเพลงเกี่ยวกับพระเจ้าได้ง่ายที่สุด โดยมีบทเพลงแครอลิ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เช่น Joy to the World (1719), O Come All Ye Faithful (1751), Silent Night (1818)
แม้สังคมไทยอาจไม่คุ้นเคยกับแครอลิ่งนัก แต่สำหรับคริสเตียนไทย ควรสร้างคุณค่าและความหมายของ “แครอลิ่ง” ให้เป็นมากกว่าการร้องเพลงสนุกสนาน ไฮไลท์ของแครอลิ่งไม่ใช่อาหารที่เจ้าบ้านเตรียมให้ ไม่ใช่แค่ความพร้อมและไพเราะของเสียงเพลงที่ร้อง (แต่เราก็ควรเตรียมตัวอย่างดีที่สุด)
คุณค่าของแครอลิ่ง คือการส่งต่อความรักและความหวังแท้ผ่านความหมายของบทเพลงไปสู่ผู้คน ทั้งในชุมชนตามท้องถนน หรือในบ้านใดบ้านหนึ่งอย่างเจาะจง แครอลิ่งจึงเริ่มต้นด้วยเสียงเพลงที่ช่วยเชื่อมเข้าหาผู้คน เป็นเหมือนการเปิดประตูใจให้เราสามารถนำพระเยซูเข้าไปถึงหัวใจพวกเขาได้
นอกจากจะเตรียมซ้อมร้องเพลง เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม กีตาร์ เทียน หมวก ฯลฯ สิ่งสำคัญคือ การเตรียมชีวิตของเรา หวังว่า ทุกบทเพลงที่เราร้อง จะออกมาจากความรู้สึกชื่นชมยินดีในใจของเราอย่างแท้จริง และสำหรับบางคนที่แครอลิ่งปีนี้จะเป็นประสบการณ์แรกของคุณ ขอให้เป็นค่ำคืนที่เต็มความทรงจำดีๆ เช่นกัน
ในปีที่โควิดแย่งซีน คงไม่ง่ายสำหรับหลายกลุ่มที่กำลังเตรียมไปแครอลิ่งในคืนนี้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เสียงเพลงแครอลิ่งที่คุณตั้งใจร้อง อาจไพเราะเป็นพิเศษสำหรับหลายบ้านในค่ำคืนนี้เช่นกัน
♬🎵 ชาวโลกทั้งหลาย ชื่นใจยินดี มีพระราชาประสูติ 🎼🎸
อ้างอิง:
- Dadline: Some Christmas traditions fading away
- Why Do Christmas Carolers Walk Around the Neighborhood Singing?
บทความ: Christlike
ภาพ: Thomas Park on Unsplash
ออกแบบ: Rainniedesign
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น