เมื่อวันสะบาโตผ่านพ้นไปแล้ว มารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบพร้อมกับนางสะโลเม ไปซื้อเครื่องหอมเพื่อจะนำไปชโลมพระศพของพระองค์ เวลารุ่งเช้าวันอาทิตย์ พอดวงอาทิตย์ขึ้น พวกนางก็มาที่อุโมงค์ และกำลังพูดกันอยู่ว่า “ใครจะช่วยกลิ้งก้อนหินออกจากปากอุโมงค์” เพราะเป็นหินก้อนใหญ่ แต่เมื่อพวกนางมองดูก็เห็นหินก้อนนั้นกลิ้งออกไปแล้ว (มาระโก 16:1-4)
เหตุใดพวกผู้หญิงจึงเตรียมเครื่องหอมไปที่อุโมงค์เพื่อจะชโลมศพพระเยซู ทั้งๆ ที่รู้ว่าปากอุโมงค์ถูกปิดแล้ว? การกระทำของพวกนางถือว่าปกติไหม?
“ที่จริงพวกนางไม่ควรไปที่อุโมงค์ฝังศพ”
ไม่ต้องแปลกใจถ้าคำถาม-คำตอบนี้จะออกมาจากพวกนักคิดที่ไม่รู้ถึงขนาดความรักและการอุทิศตนของหญิงเหล่านี้ต่อพระเยซู พวกเขาจึงตัดสินอย่างไร้ความรู้สึกต่อการกระทำที่พวกนางอยากทำ
หากลองใช้ใจนึกถึงคนที่กำลังทุกข์โศก เพราะสูญเสียคนที่พวกเขาติดตามและรักอย่างที่สุด ดังนั้นพวกเธอมีความอาลัยอาวรณ์อยากไปที่อุโมงค์เพื่อชโลมศพ ไปเพื่อแสดงความรักที่มีต่อบุคคลที่พวกนางยกย่องอย่างที่สุด และการชโลมศพนี้ก็ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวยิวจริงตามประวัติศาสตร์
หลังจากผ่านวันสะบาโตที่ห้ามทำอะไรแล้ว เช้าตรู่วันอาทิตย์ ความรักและความศรัทธาทำให้พวกเธอเร่งรีบไปที่อุโมงค์ พวกเธอคงไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วนว่าจะทำยังไงกับหินที่ปิดปากอุโมงค์อยู่**
พวกผู้หญิงเองก็รู้ความจริงนี้ดี จึงพูดกันขณะเดินทางว่า “ใครจะช่วยกลิ้งก้อนหินออกจากปากอุโมงค์” พวกนางอาจคิดว่ามีผู้ชายอยู่แถวนั้นที่สามารถช่วยย้ายหินปิดปากอุโมงค์ได้ หรืออาจหวังว่ายามที่เฝ้าอยู่ อาจจะยอมช่วยพวกเธอก็ได้
ในที่สุดพวกเธอกลายเป็นคนกลุ่มแรกที่พบอุโมงค์ว่างเปล่า กลายเป็นพยานสำคัญของการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ หากหญิงกลุ่มนี้ยังนั่งอยู่ที่บ้านและมัวแต่คิดว่าจะจัดการเลื่อนหินก้อนยักษ์อย่างไร ชีวิตพวกเธอก็คงพลาดจากประสบการณ์อันยิ่งใหญ่นี้
เมื่อพระเจ้าเรียกเราไปในพื้นที่ที่เรามีความไม่พร้อม เราอาจมีเหตุผลเพื่อปฏิเสธเสียงเรียกในหัวใจ แต่จงให้ย่างก้าวของเราเป็นก้าวที่เดินด้วยความเชื่อและความรัก เพื่อจะนำเราเข้าสู่เส้นทางที่เต็มด้วยประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์
อีสเตอร์นี้ ลองถามหัวใจตัวเองว่า
- ความรักและการเสียสละของพระเยซูคริสต์ได้เรียกร้องแอ็กชันอะไรจากเราบ้าง?
- ความรักที่เรามีต่อพระองค์นั้นได้เคลื่อนเราให้ตัดสินใจทำสิ่งที่อยู่นอก comfort zone ของตัวเองหรือไม่?
- มีเรื่องอะไรที่หยุดยั้งไม่ให้เราตอบสนองพระองค์?
- มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เรายังรอเวลาอยู่และไม่ลงมือทำ?
“ในความรักเรายังใช้เหตุผลได้ แต่เราอย่าให้เหตุผลนำหน้าความรัก”
**หลักฐานที่นักโบราณคดีได้ขุดอุโมงค์ฝั่งศพในศตวรรษแรก ทำให้เราเห็นภาพของ “หินปิดปากอุโมงค์” ว่าเป็นหินก้อนใหญ่แผ่นกลม เมื่อจะปิดปากอุโมงค์ ต้องกลิ้งหินนี้ลงทางลาดต่ำสู่ทางเข้าอุโมงค์ แล้วก็ยังจะมีหินเล็กอีกก้อนประกบหินแผ่นใหญ่ให้มั่นคงขึ้น แม้ว่าการกลิ้งแผ่นหินลงไปปิดปากอุโมงค์อาจเป็นเรื่องง่าย แต่การกลิ้งแผ่นหินนั้นกลับขึ้นมาบนทางที่ลาดชันขึ้น เพื่อจะเปิดอุโมงค์คงเป็นเรื่องยากมากๆ
อ้างอิง: หนังสือ คดีพระเยซู
บทความ: JK
ออกแบบภาพ: Mr.Promise
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น