“เบื้องหลังเรื่องราวต่างๆในชีวิตเรา มีเรื่องราวของแม่อยู่ด้วยเสมอ และเรื่องราวของแม่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตเรา”
(Behind all your Stories is always your mother’s story, because hers is where your begins – Mitch Albom)
ChristLike จึงได้คัดเรื่องราวดีๆ น่าประทับใจของคุณแม่มาให้ บางเรื่องเป็นแค่ประเด็นเล็กๆ แต่ก็สะท้อนถึงความอบอุ่นแห่งสายใยแม่ลูก บางเรื่องก็ทำให้เราเห็นพลังความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้เป็นแม่
หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะสะกิดใจคุณให้ระลึกถึงความทรงจำดีๆ ระหว่างคุณแม่กับตัวคุณ
สุขสันต์วันแม่!!
1. ของขวัญอันล้ำค่าจากแม่ของคุณแม่
เมื่อเฟอร์นันด้า เมเดรอส (Fernanda Medeiros) อายุได้ 13 ปี เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดมดลูก นั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเด็กสาว เพราะเธอใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากจะเป็นคุณแม่ แต่เธอไม่เคยล้มเลิกความฝันนั้น
ในเวลาต่อมา เมเดรอส และสามีเธอ ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศบราซิล ได้ทำเรื่องขออุปการะเด็ก แต่ทั้งคู่ถูกปฏิเสธ จนกระทั่งในปี 2005 เมเดรอส ได้ยินเรื่องของคุณยายซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่อุ้มบุญ เพื่ออุ้มท้องหลานของเธอ ดังนั้นเมเดรอส และแม่ของเธอ มาเรีย ดา กลอเรีย (Maria da Gloria) จึงเข้าพบคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งสองถูกปฏิเสธในตอนแรก โดยคุณหมอให้เหตุผลว่า ดา กลอเรีย อายุ 51 ปี ซึ่งถือว่าแก่เกินไป แต่เมเดรอส และ แม่ของเธอ ไม่ยอมแพ้ ในที่สุดทั้งคู่ได้พบกับคุณหมอ ซึ่งยินดีจะช่วยทำให้ฝันของทั้งคู่เป็นจริง
ดา กลอเรีย ซึ่งมีลูกมาแล้ว 3 คน ต้องเริ่มกินยาปรับฮอร์โมน เพื่อกระตุ้นรอบประจำเดือนอีกครั้ง การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ครั้งแรกล้มเหลว แต่ประสบความสำเร็จในครั้งที่ 2 และในที่สุดเดือนมกราคม ปี 2013 คุณยายจึงได้ให้กำเนิดหลานสาวฝาแฝดแข็งแรง 2 คน ชื่อ เอ็มมานูเอล (Emmanuel) และ จูเลีย (Julia)
นี่คือของขวัญอันล้ำค่าที่ เมเดรอส ลูกสาวของเธอเฝ้ารอมาแสนนาน
2. กำลังใจจากแม่ในยามต้องการ
ไม่ใช่เพียงการกระทำอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เรารู้สึกว่าแม่เป็นคนพิเศษ แต่บางครั้งถ้อยคำให้กำลังใจอันเรียบง่าย กลับมีความหมายมากที่สุด วิดีโอนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกำลังใจอันอ่อนโยนจากแม่
ในคลิปวิดีโอ เราจะเห็น กาวิน (Gavin) เด็กชายวัย 4 ขวบ ผู้ตาบอดมาแต่กำเนิด วันที่อากาศแจ่มใสในเดือนมีนาคม กาวินได้ใช้ไม้เท้าช่วยเดิน เพื่อลองเดินด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก เด็กน้อยค่อยๆ ใช้ไม้เท้าคลำขอบทางเดินของพื้นซีเมนต์ เพื่อก้าวลงมา ในขณะที่พูดว่า “ผมทำได้! ผมทำได้!”
ในขณะเดียวกัน เราจะได้ยินแม่ของกาวิน ส่งเสียงให้กำลังใจลูกชายของเธอ
“ลูกทำได้แน่นอน เดินไปข้างหน้าสิ ลูกจะปลอดภัย”
แม้เป็นสิ่งเล็กๆ ที่แม่ได้ทำ แต่ช่างเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นใจเหลือเกิน
3. การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของคุณย่าผู้ทำหน้าที่แทนคุณแม่
ชีวิตของยัง ตัน (Young Tan) ไม่ได้เป็นชีวิตที่ง่ายนัก เด็กน้อยวัย 7 ขวบ ป่วยด้วยโรคภาวะสมองพิการ และสูญเสียพ่อไปในอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อปี 2008 แม่ของเธอ จึงต้องออกจากหมู่บ้านที่ห่างไกลในชนบท เพื่อไปหางานทำ
แต่ยัง ตัน ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง เธอมีย่า เซียง ยุนคุย (Xiang Yuncui) คอยเฝ้าดูแลเปรียบเสมือนเป็นแม่อีกคน เซียง จะตื่นนอนตอนตีห้า เพื่อป้อนอาหารให้หลาน และ แต่งตัวให้เธอไปโรงเรียน จากนั้นเธอแบก ตัน ขึ้นหลัง และเดินข้ามภูเขาเป็นระยะทางกว่า 9 กม. เพื่อพาหลานไปโรงเรียน เซียง ใช้เวลาวันละ 4 ชม. เดินข้ามเขา เป็นเวลาเกือบ 3 ปี และตั้งใจว่าเธอจะทำเช่นนี้ตราบเท่าที่เธอยังทำได้
หลังจากที่เรื่องราวอันน่าประทับใจของย่าหลาน ได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อในปี 2012 เจ้าหน้าที่ของทางการได้ให้ความช่วยเหลือตัน เพื่อเข้ารับการผ่าตัดให้มีสภาพร่างกายที่ดีขึ้น
4. แม่ผู้อุทิศช่วงสุดท้ายของชีวิต เพื่อความสุขของครอบครัว
ในปี 2011 ซูซาน สเปนเซอร์-เวนเดล พบว่าเธอป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ซึ่งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต เธอไม่ได้อาลัยอาวรณ์กับชีวิตที่กำลังจะสิ้นสุดลง แต่คุณแม่ลูกสามผู้นี้ กลับลงมือเขียนรายการสิ่งที่เธออยากทำในช่วงชีวิตปีสุดท้ายของชีวิต เพื่อสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกับครอบครัวของตัวเอง
ในขณะที่โรคร้ายค่อยๆทำลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซูซานในวัย 46 ปี ได้บันทึกทุกเรื่องราวในชีวิต โดยใช้เพียงนิ้วหัวแม่มือ ในการถ่ายทอดความคิดของเธอผ่านแป้นพิมพ์
เธอได้วางแผนทำกิจกรรมมากมาย เช่น พาลูกสาววัย 14 ปี ไปนิวยอร์ก เพื่อลองชุดแต่งงาน (“ฉันอยากเห็นว่าลูกจะเติบโตเป็นผู้หญิงแบบไหน ในช่วงเวลาที่ฉันจะไม่ได้มีส่วนร่วม ขอเพียงได้เห็นแค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น”) เธอพาลูกชายวัย 9 ขวบ ไปว่ายน้ำกับปลาโลมาในวันเกิดของเขา และเธอพาลูกสาววัย 10 ขวบ ไปท่องเที่ยวในป่าเขตร้อน
เรื่องราวของเธอที่เปิดเผยอย่างจริงใจนี้ถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อว่า “มีเหตุผลที่พระเจ้ายังให้เราหายใจ” (Until I Say Good-Bye: My Year of Living with Joy)”
ในหนังสือเล่มนี้ สเปนเซอร์-เวนเดล เล่าถึงจุดที่เธอตัดสินใจที่เลือกที่จะใช้ชีวิตในแง่บวก เธอเขียนไว้ว่า
ความคิดฆ่าตัวตาย เข้ามาในหัวของฉัน บ่อยครั้งเท่ากับที่คุณเห็นผีเสื้อ
มันค่อยๆ กระพือเข้ามาจิตใจของฉัน ฉันใคร่ครวญ และประหลาดใจกับความสมเหตุสมผลของมัน
จากนั้นมันก็โบยบินไป แล้วฉันก็ลืม เพราะมันเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านเข้ามา
จนกระทั่งมันวนเวียนกลับมาใหม่ในวันต่อๆ ไปฉันไม่คิดว่าความตายจะทำลายชีวิตคนในครอบครัวของฉัน
แต่ฉันรู้ดีว่าวิธีที่ฉันตายจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของพวกเขาจงใช้ชีวิตอย่างชื่นชมยินดี
5. เรื่องเล่าจากกองเพลิง ของเจมี่ วิลเลี่ยมส์ และแม่ผู้กล้าหาญ
เมื่อตอนผมเป็นเด็ก วันหนึ่งขณะที่แม่กำลังทำอาหารกลางวัน จู่ๆ ไฟได้ลุกไหม้ท่วมเตา แม่ผู้กล้าหาญของผมรีบวิ่งเข้าไปในครัว หยิบหม้อที่ไฟคลอกออกมา แล้ววิ่งออกไปข้างนอกพร้อมกับหม้อนั้น
สิ่งที่ดูกล้าหาญยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากที่ไฟสงบลง แม่ได้นั่งลงบนเก้าอี้ที่ระเบียง และบอกผมให้อยู่ข้างในบ้าน ปลอบผมว่าไม่มีอะไรต้องกังวล แต่ผมสังเกตว่าในตอนนั้นแม่ทำท่าแปลกๆ และหันตัวของแม่ไม่ให้ผมเห็น แต่แม่ก็มีท่าทางสงบและไม่ตื่นตระหนก
ผมได้รู้ทีหลังว่า แม่เจ็บปวดมากเพราะความร้อนอย่างรุนแรงของไฟที่ไหม้ตั้งแต่ข้อศอก ไปยังนิ้วมือและแขนขวาของเธอ
แม่ใช้ทุกหยาดหยดของความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ที่จะกลั้นน้ำตาไว้ ไม่กรีดร้องเพื่อผมจะได้ไม่กลัวหรือตกใจในเวลานั้น
เจมี่ วิลเลี่ยมส์ จาก ฟอร์ต เมเยอร์ส , ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
บทความอ้างอิง
- https://mashable.com/2014/05/08/inspiring-moms/
- https://theweek.com/articles/464469/7-heartwarming-stories-about-moms
แปลและเรียบเรียง: Mix
ภาพ: guille pozzi on Unsplash
ออกแบบภาพ: Nan Tharinee
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น