หากการสร้างธุรกิจใหม่ เริ่มต้นจากศูนย์ให้อยู่รอดได้ว่ายากแล้ว การสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และมีมูลค่าเกิน 14,000 ล้านเหรียญ USD หรือเกิน 4 แสนล้านบาทภายใน 9 ปีนั้น คงต้องเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ปาฏิหาริย์” (ที่เกิดขึ้นจริง)
ธุรกิจที่ว่านี้คือ Grab หรือที่คนไทยเราเรียก “แกร๊บ” กันจนติดปาก และใช้บริการกันจนติดใจ ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ใช้แค่เป็น app เรียกรถ เรียกมอเตอร์ไซค์เท่านั้นแล้ว แต่ได้ผันตัวกลายเป็น Super App ที่รวมมากกว่า 10 บริการไว้ในตัว และมีเป้าหมายที่จะดูแลชีวิตคนใน Souteast Asia ในทุกๆ วันให้มากที่สุด หรือที่เรียกว่าเป็น Everyday App นั่นเอง
แต่เบื้องหลังความสำเร็จ ความน่าสนใจของ Grab ที่อยากขยายภาพไม่ใช่แค่ด้านตัวเลขหรือธุรกิจ แต่เป็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ที่ได้ตั้งและเจิมธุรกิจนี้ไว้อย่างเจาะจง ผ่านผู้ชายที่เป็นผู้ก่อตั้ง (CEO & Co-Founder) ที่ชื่อว่า “Anthony Tan (แอนโธนี่ ตัน)” ผู้เป็นคริสเตียนชาวมาเลเซีย ที่ได้ยืนยันหลายครั้งผ่านงานสัมมนาต่างๆ และเล่าคำพยานชีวิตว่า พระเจ้าคือผู้ที่นำ Grab ให้มาไกลจนเป็น Start-up อันดับ 1 ในภูมิภาคนี้!
Grab ใหญ่แค่ไหน? ทำไมถึงมีมูลค่าเกิน 4 แสนล้านบาทและยังโตเร็วต่อเนื่อง? และคำพยานชีวิตกับบทเรียนที่ได้ดีอย่างไร เรามาดูกันครับ
Anthony Tan & Grab’s background
แอนโธนี่ เกิดในครอบครัวที่มีธุรกิจที่รวยและใหญ่ในมาเลเซีย ซึ่งคือกลุ่ม TCMH Group ที่เป็นผู้ผลิต ประกอบ และจัดจำหน่ายรถ Nissan รายใหญ่ รวมถึงเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นด้วย ซึ่งเขาได้เผยว่า ต้นทุนที่ครอบครัวเขามี เป็นสิ่งที่เขาขอบคุณครอบครัวที่ได้โอกาสในการเรียนดี และความรู้ต่างๆ ที่ได้รับ แต่ความฝันเขาคือการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยตัวเอง
ปัจจุบันเขาได้แต่งงานแล้วกับ Chloe Tong และมีลูก 3 คน โดยใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นในแบบคริสเตียน และเป็นตัวอย่างในการนมัสการ เดินตามแบบอย่างพระเยซู และมีคุณค่า เกิดผลในงานที่ทำกันอย่างมาก
จุดเริ่มต้นการมาทำ Grab คือ ในปี 2011 เมื่อได้ไปเรียนต่อป.โท ที่ Harvard Business School (HBS) ซึ่งอยู่อเมริกา แอนโธนี่และฮุยหลิงตัน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นและกลายมาเป็น co-founder Grab นั้น ได้นำเสนอไอเดีย app เรียกรถ Taxi ใน Malaysia ให้กับทางมหาวิทยาลัย เพราะ Taxi มาเลเซียในยุคนั้นมีปัญหาอย่างมากว่าเรียกยาก โกงเงิน และอันตรายต่อผู้หญิง และผลการนำเสนอคือ เขาได้รับรางวัลชนะเลิศและได้เงินทุน 10,000 USD ด้วย โดยนับเป็นครั้งแรกที่คนอาเซียนได้ชนะการนำเสนอแผนธุรกิจที่ HBS
เขาได้เริ่มทำทันทีในปี 2012 โดยมีคุณแม่ของแอนโธนี่ร่วมลงทุนในเงินก้อนแรกนี้เพิ่มด้วย ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบากในการเริ่มสิ่งใหม่ ด้วยการนำ tech มาเปลี่ยนแปลงวิธีเดินทางของผู้คนในยุคนั้น ที่นิยมเรียกรถในแบบเดิม และจ่ายเงินสดกันเท่านั้น
จากจุดเริ่มต้นของแอนโธนี่และทีมงานไม่กี่คน ปัจจุบัน Grab ได้กลายเป็น Tech Start-up อันดับ 1 ในอาเซียน ที่มาไกลเกินกว่า Unicorn (ธุรกิจ Start-up ที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้าน USD) ไปแล้ว เพราะมีมูลค่าประเมินสูงถึง 14,000 ล้าน USD (ถึงสิ้นปี 2019) ซึ่งถูกอัพเกรดจาก Unicorn กลายเป็น Decacorn ไปแล้ว! (มูลค่าเกิน 10,000 ล้าน USD)
Grab ของแอนโธนี่ ใหญ่ขนาดว่าเอาธุรกิจขนส่งสาธารณะของรัฐบาลทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 10-15 ปีมารวมกัน ยังไม่เท่า Grab ที่มีอายุเพียง 9 ปีเท่านั้น ซึ่งในภาพรวมนั้น Grab ได้สร้างงานให้ทั้งอาเซียนและมีผู้คนเกี่ยวข้องมากถึง 9 ล้านคน มีลูกค้าเรียกใช้บริการไปแล้วมากกว่า 3 พันล้านครั้งเลยทีเดียว และยังเปิดให้บริการมากกว่า 336 เมืองใน 8 ประเทศในอาเซียนอีกด้วย
God’s Prophecy, Favour & Anointing
สิ่งที่ผู้เขียนได้พบในการค้นคว้าประวัติของแอนโธนี่นั้น ความยิ่งใหญ่ไม่ใช่เรื่องของความสำเร็จธุรกิจ หรือ know-how ใดๆ แต่เป็นเส้นทางที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้เขาตั้งแต่ก่อนเริ่ม และทรงนำเขามาถึงวันนี้ ซึ่งควรค่าแก่เราที่เป็นคริสเตียนทุกคนควรศึกษาชีวิตเขาถึงการเดินกับพระเจ้า รวมถึงเหตุการณ์สำคัญถึง 2 ครั้งที่พระเจ้าสำแดงและยืนยันถึงแผนการ Grab นี้อย่างเจาะจงผ่านคำเผยพระวจนะมาถึงเขา!
แอนโธนี่โตในครอบครัวที่เป็นคริสเตียน และแม่ได้พาเขาไปโบสถ์ทุกๆ อาทิตย์ดังเช่นพวกเราคริสเตียนทุกคน ซึ่งคำเผยพระวจนะครั้งแรกนั้น เกิดขึ้นที่โบสถ์ในสิงคโปร์ โดยศบ.ได้มีถ้อยคำเผยพระวจนะมาถึงเขาว่า “พระเจ้าจะนำเขาให้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเดินทางสาธารณะ (Public Transportation) ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนในทั้งภูมิภาคอาเซียนนี้”
แอนโธนี่ ซึ่งในเวลานั้นยังไม่ได้ทำธุรกิจ และยังไม่ได้ไปเรียนต่อที่ Harvard พอได้ฟัง เขาก็ประหลาดใจและคิดไม่ออกว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะเขายังไม่ได้เริ่มธุรกิจส่วนตัว และธุรกิจครอบครัว ก็เป็นการผลิต ประกอบ และขายรถภายในมาเลเซียเท่านั้น ทำให้มองภาพไม่เห็น หรือจินตนาการไม่ถึงเลยว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่หลังจากได้นำเสนอแผนที่ Harvard ชนะในปี 2011 และเริ่ม Grab ในปี 2012 นั้นเส้นทางอัศจรรย์นี้ก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเขาเล่าว่า พระเจ้าได้ยืนยันอีกครั้งด้วยการที่ให้ได้ระดมทุนจาก Softbank ซึ่งเจ้าของคือ Masayoshi Son หรือเบอร์ต้นๆ ในวงการ Start-up ที่รู้กันว่า Connection และเงินทุนนั้นมหาศาลเหลือเกิน ซึ่งยากและต้องดีจริงเท่านั้น Son ถึงจะยอมลงทุนในธุรกิจนั้นๆ ซึ่งตัวอย่างธุรกิจที่เขายอมลงทุน เช่น Alibaba ของ Jack Ma, Uber, Didi (App เรียกรถอันดับ 1 ในจีน) และอื่นๆ อีกมากมาย
แอนโธนี่เล่าว่า ในปี 2014 นั้น Grab ต้องการระดมทุนเพื่อเร่งสปีดและขยายธุรกิจ จึงมีคนแนะนำและได้ไปพบกับ Son โดย Son บอกกับแอนโธนี่ในการพูดคุยว่า “เก้าอี้ที่คุณนั่งอยู่ 14 ปีที่แล้ว Jack Ma ก็เคยนั่ง และตอบตกลงร่วมธุรกิจกับ Son มาแล้ว” ซึ่งผลของการคุยทำให้ Son สนใจและตัดสินใจภายใน 37 วันเท่านั้น ที่ให้เงินลงทุนแก่ Grab สูงถึง 250 ล้าน USD หรือมากกว่า 8 พันล้านบาทในยุคนั้น และหากนับจากเงินก้อนแรกที่ Grab ได้รับจาก Softbank ในปี 2014 นั้น ปัจจุบันที่ได้รับเงินลงทุนเพิ่มมาตลอดจาก Partners ยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น Microsoft, Didi, Toyota, Honda, Yahama, Hyundai และอื่นๆ รวมถึง Central Group และ Kbank จากไทยอีกด้วย ทำให้ Grab ของแอนโธนี่ ได้รับเงินลงทุนในการขยายธุรกิจและพันธมิตรไปทั้งหมด 29 ครั้ง เป็นเงินมากถึง 9.1 พันล้าน USD หรือมากกว่า 3 แสนล้านบาทไปแล้ว!
การที่จะมีใครเอาเงินมาให้คุณ 3 แสนล้านบาทเพื่อลงทุนใน Project ของคุณนั้น คงไม่ใช่แค่มันสมอง ไอเดีย และทีมงานเท่านั้น แต่แอนโธนี่กล่าวว่า “นี่คือพระคุณจากพระเจ้า ที่อวยพรในงานที่เขาทำมากเหลือเกิน และมากเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้”
อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญคือ เมื่อครั้งหนึ่ง Uber ที่ได้ให้บริการในอาเซียนรวมถึงไทยนั้น ถือว่าเป็นคู่แข่งรายสำคัญอันดับ 1 ของ Grab เลยทีเดียว ซึ่งยากที่จะเอาชนะและต้องเสียหายทั้งเงินทุนและองค์ประกอบอื่นๆ ในการจะสู้กันระยะยาวเพื่อให้ชนะ Uber ได้ แต่เหตุการณ์ก็สร้างความประหลาดใจอย่างมาก ด้วยการที่ Grab ได้เข้าซื้อกิจการและควบรวมกิจการ Uber ในอาเซียนทั้งหมด แลกกับ Uber ได้หุ้น Grab ไปเกือบ 25% ซึ่งวิน-วินทุกฝ่าย เพราะนอกจากตัดคู่แข่งแล้ว ยังได้คู่แข่งมาเป็นเป็นพวกเดียวกันแถม CEO Uber ที่เก่งมากๆ ยังมานั่งเป็นบอร์ดบริหาร Grab จนถึงทุกวันนี้ด้วย
ทุกๆ ครั้งก่อนประชุมหรือต้องตัดสินใจใดๆ แอนโธนี่จะคุกเข่าอธิษฐานพระเจ้าเป็นการส่วนตัว เพื่อขอสติปัญญาและถามถึงแผนการที่พระเจ้าจะนำไป โดยเขาบอกว่า “Grab นั้นเป็นธุรกิจและบริษัทที่พระเจ้าตั้งไว้ เขาเป็นผู้ดูแลของพระเจ้าใน Grab” (I’m just merely a custodian of this company)
อีกครั้งหนึ่ง ที่ได้มีคำเผยพระวจนะมาถึงแอนโธนี่ครั้งที่สอง คือเมื่อเขาไปที่ L.A. อเมริกา เขาและพี่น้องคริสเตียนที่ร่วมสามัคคีธรรมและอธิษฐานเผื่อกันในทุกสัปดาห์ตั้งแต่ก่อนเริ่มธุรกิจจนถึงทุกวันนี้ ได้ไปพบกับ Pastor Jaeson Ma ซึ่งได้กล่าวแก่เขาว่า “พระเจ้าสำแดงว่า แอนโธนี่ จะพา Grab เติบโตสูงไปอีกขั้น ด้วยการทำงานร่วมกับคนจีน ในประเทศจีน”
สิ่งนี้ทำให้แอนโธนี่งงมาก เพราะ Grab นั้นทำธุรกิจและมีออฟฟิศแค่ในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น และจีนก็เป็นเหมือนสนามรบที่ใหญ่โต และเขาไม่เคยคิดจะเข้าไป แต่ในที่สุด พระเจ้าได้มาบอกล่วงหน้าแก่เขา เพราะ Grab ในเวลาต่อมา ได้พบกับปัญหาว่าต้องการคนเก่งด้าน Programmer มากกว่านี้ ซึ่งในอาเซียนมีไม่พอแล้ว ทำให้ท้ายที่สุด เขาผ่านมาได้ด้วยการเปิดสำนักงานเพิ่มในจีน อินเดีย อเมริกา จริงๆ ตามที่พระเจ้าได้บอกล่วงหน้าไว้แล้ว
Presently
ปัจจุบัน Grab (มาจากสิงคโปร์) ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และแข่งขันอย่างดุเดือดในภูมิภาคนี้กับ Go-Jek (มาจาก Indonesia) หรือที่ประเทศไทยคือ Get โดยแข่งกันที่จะครองตลาดและ market share ในอาเซียนให้ได้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า หลังจากปี 2020 นี้ไปจะเป็นอย่างไร ใครจะใหญ่ขึ้น หรือเล็กลง ชนะหรือแพ้ รวมถึงไม่ใช่สิ่งที่บทความนี้จะโฟกัส
แต่สิ่งที่อยากชี้ให้เห็นคือ พระเจ้ามีแผนการดีสำหรับเราแต่ละคนอย่างเจาะจงจริงๆ เรื่องราวชีวิตของแอนโธนี่และ Grab ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะมีการเผยพระวจนะถึงเขาก่อนที่จะเริ่มคิดและทำ รวมถึงระหว่างทาง พระเจ้าก็ได้นำเขาไปในเส้นทางโอกาสที่เขาและทีมงานไม่ได้วางแผนไว้ ซึ่งดีกว่าและช่วยแก้ปัญหาบริษัทได้อย่างอัศจรรย์
ความถ่อมใจของแอนโธนี่ ที่นอกจากจะไม่ห่างพระเจ้าแล้ว แม้ว่าจะมีธุรกิจใหญ่เกิน 4 แสนล้านบาทนั้น เขายังเป็นคนเดิมที่ติดดิน ขยัน ตั้งใจ รักครอบครัว ไปโบสถ์ อ่านพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอ และไม่ได้ฟุ้งเฟ้อใช้เงินเหมือนคนอื่นๆ ที่ทำธุรกิจ Start-up และได้เงินมาแล้ว มักจะมีชีวิตหรือ lifestyle ที่เปลี่ยนไปที่เห็นได้ตามสื่อต่างๆ
ความถ่อมใจของแอนโธนี่ การให้เกียรติและขอบคุณพระเจ้าจากใจในทุกๆความสำเร็จของ Grab ซึ่งได้กลายเป็น Start-up อันดับ 1 ของอาเซียนนั้น เป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้ ชื่นชม และขอบคุณพระเจ้าเมื่อมีคริสเตียนหนึ่งคน ได้เป็นตัวอย่างและจุดประกายไฟให้คนรุ่นใหม่ ลุกขึ้น ลงมือทำ และเดินตามความสำเร็จของเขาได้
“สิ่งที่ตาไม่เห็น หูไม่ได้ยิน และสิ่งที่ใจมนุษย์คิดไม่ถึง
คือสิ่งที่พระเจ้าทรงจัด เตรียมไว้สำหรับคนทั้งหลายที่รักพระองค์”
– 1 โครินธ์ 2:9 –
บทความ: PONG FISH
ออกแบบภาพ: Promise
อ้างอิง:
- https://youtu.be/kMq5mF7dry0
- https://youtu.be/WUwVZpfOfVQ
- https://youtu.be/tpMVDzsxMPk
- https://thelowdown.momentum.asia/who-are-the-investors-behind-grab/
- https://analyticsindiamag.com/looking-east-grabs-journey-from-being-a-unicorn-to-becoming-the-leading-mobility-platform-in-southeast-asia/
- https://www.sramanamitra.com/2017/12/08/billion-dollar-unicorns-grab-becomes-the-most-valuable-startup-in-southeast-asia/
- http://www.investerest.co/business/grab-taxi-growth/
- https://positioningmag.com/1238094
- https://www.grab.com/sg/press/people/grab-announces-appointment-ming-maa-president/
- https://www.crunchbase.com/person/anthony-tan#section-recent-news-and-activity
- https://www.crunchbase.com/organization/grabtaxi
- https://techsauce.co/tech-and-biz/cnbc-interviews-co-founder-ceo-grab-anthony-tan-after-opening-grab-ventures
- https://www.youtube.com/watch?v=fFxv8uS4dJQ
- https://www.gqthailand.com/life/article/startup-unicorn
- https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_unicorn_startup_companies
- https://thelowdown.momentum.asia/5th-unicorn-in-indonesia-a-major-boost-for-grabs-prospects/
- https://www.instagram.com/chloetong/
Chilly Run Chilly
ChristLike Admin