มีคนกล่าวไว้ว่า มนุษย์ คือสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
และความต้องการแต่ละส่วนนั้น ต่างมีธรรมชาติที่ต้องการการตอบสนองแตกต่างกันไป
ร่างกาย ต้องการอาหาร ต้องการการพักผ่อน ต้องการทะเล:) ต้องถูกปกป้อง
จิตใจ ต้องการความรัก ความคิด ต้องการความรู้
จิตวิญญาณ ต้องการการมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ค่อนข้างง่ายที่เราจะเข้าใจเรื่องการตอบสนองความต้องการของร่างกาย
เช่น เมื่อร่างกายเกิดความขาดแคลน ก็แสดงอาการออกมาชัดเจน คือ กระหายน้ำ เจ็บป่วย
แต่ความต้องการด้านจิตใจ จิตวิญญาณ
และการได้รับการตอบสนองจริงๆ ล่ะ …
คนหิว ก็ต้องได้กิน ไม่ใช่หิวเมื่อไรก็แวะมา 7-11
จ่ายเงินซื้อข้าวมาตั้งไว้ แล้วสบายใจว่าได้มีข้าวกินแล้ว
จริงหรือ? ที่เราไปโบสถ์แล้วเราได้พักสงบ
จริงหรือ? ที่เราเฝ้าเดี่ยวแล้วเราสนิทมากขึ้น
จริงหรือ? ที่เรานมัสการแล้วเราได้พบพระเจ้าหน้าต่อหน้า
จิตวิญญาณที่หิว ก็ต้องได้รับประสบการณ์
ไม่ใช่แค่ไปร่วมศาสนกิจแล้วสบายใจว่าเราเป็นศาสนิกชนที่ดีแล้ว
พระสัญญาที่พระเยซูให้ไว้ว่า
บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนัก จงมาหาเรา
และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข – มัทธิว 11:28 (TH1971)
และพระสัญญาที่มีเขียนไว้ว่า
ด้วยว่ามีสองสามคนประชุมกันที่ไหนๆ ในนามของเรา
เราจะอยู่ท่ามกลางเขาที่นั่น – มัทธิว 18:20
วันนี้เรายอมรับแบบไม่รักษาหน้าได้หรือไม่
ว่าวันนี้เราได้รับมันจริงหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน?
ทุกวันนี้ เราพยายามรักษาสถานะคริสเตียนไว้ด้วยคำว่า “รักษาความเชื่อ”
แต่ความต้องการพื้นฐานในเราเอง กลับถูกละเลยมาเป็นเวลานานแค่ไหน?
ข่าวดีของคนยากจนคืออะไร? คือการเลิกจนในฝ่ายกายภาพไม่ใช่หรือ?
ข่าวดีของคนเจ็บป่วยคืออะไร? คือการหายดีในฝ่ายกายภาพไม่ใช่หรือ?
ข่าวดีของคนถูกเอาเปรียบคืออะไร? คือการได้รับความยุติธรรมไม่ใช่หรือ?
สิ่งที่พระเยซูลงมาทำคืออะไร? คือการปลดปล่อยมนุษย์จากอำนาจของบาป
และรักษาโรค เลี้ยงอาหาร ปลดปล่อยคนจากการเอาเปรียบของวิญญาณชั่ว
ไม่ใช่หรือ?
กลับมาเถิด
แสวงหาสิ่งที่จะทำให้อิ่มท้องได้จริงเถิด
แสวงหาสิ่งที่จะทำให้อิ่มใจได้จริงเถิด
แสวงหาสิ่งที่จะทำให้เป็นไทได้จริงเถิด
มากกว่าที่จะแสวงหาความฟินแห่งการเป็นคนถือศาสนาสุดคูล
มีแต่ศาสนกิจค้ำคอ แต่ตัวตนกลับขัดสนยากไร้จนเกินจะรักษา
จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน
เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้ และทุกคนที่แสวงหาก็พบ ทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
ในพวกท่านมีใครบ้างที่จะเอาก้อนหินให้ลูก เมื่อเขาขอขนมปัง? หรือให้งูเมื่อลูกขอปลา?
เพราะฉะนั้น ถ้าพวกท่านเองผู้เป็นคนบาป ยังรู้จักให้ของดีแก่ลูกของตน
ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์
จะประทานสิ่งดีแก่พวกที่ขอจากพระองค์ – มัทธิว 7:7-11
คำอธิษฐานของผมเพื่อคุณ คือขอให้คุณได้รับอย่างที่พระเยซูตรัสไว้จริงๆ
พระเจ้ารักคุณ ขอพระเจ้าอวยพรครับ
บทความ: องอาจ โชติกุญชร
เรียบเรียง: ธารา วงศ์ศิริสิน
ออกแบบ: องอาจ โชติกุญชร
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น