บทความ

พระเยซูเกิดจากหญิงพรหมจารี คนรุ่นใหม่จะเชื่อได้ไหม?

พระเยซูเกิดจากหญิงพรหมจารี หรือเกิดโดยวิธีสมสู่ตามธรรมชาติของหญิงชาย?

เรื่องนี้เป็นข้อสงสัยที่ไม่ยากเกินไปเพราะมีการถกเถียงและตอบคำถามมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยพระเยซูจนถึงปัจจุบัน แต่หลักฐานที่เป็นการจดบันทึกซึ่งน่าจะเก่าแก่ที่สุดคงหนีไม่พ้นในพระคัมภีร์ใหม่ โดยเฉพาะพระกิตติคุณมัทธิว และลูกา แม้บางคนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่าเป็นหลักฐานที่สนับสนุนกันเองจนขาดความน่าเชื่อถือ แต่ก็เหมือนการทำวิจัยนั่นแหล่ะครับ หากเป็นคำสัมภาษณ์ หรือคำตอบจาก Stakeholders จะต้องมีการ Verify โดยบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องราวดังกล่าว ลองมาไล่เลียงกันครับ

  1. บันทึกในพระธรรมมัทธิว และลูกา ซึ่งเขียนในศตวรรษที่ 1 (อยู่ในช่วงเวลาที่สามารถตรวจสอบประวัติของพระเยซูได้ไม่ยาก) ระบุอย่างชัดเจนว่าพระเยซูบังเกิดด้วยวิธีพิเศษคือโดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณ ไม่ได้ผ่านการสมสู่กับชายใด (ดูใน มัทธิว 1 และ ลูกา 1)
  2. การบันทึกของ มัทธิว และลูกา (ซึ่งเป็นหมอในยุคนั้น) เป็นการบันทึกแยกกันอย่างอิสระ และบันทึกภายหลังจากที่เรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้นไปแล้ว คือพระเยซูประสูติ สั่งสอน สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ฟื้นจากความตาย และขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ทั้ง 2 เล่มจึงเสมือนหลักฐานที่สามารถคานกันเองได้ แต่ได้ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกัน
  3. เรื่องราวการประสูติโดยหญิงพรหมจารีมารีย์เต็มไปด้วยการยืนยันจากหลากหลายผู้คนที่ทั้งเกี่ยวและไม่เกี่ยวข้องกัน เช่น เศคาริยาห์และเอลีซาเบธ บิดามารดาของยอห์นผู้ให้บัพติศมา, คำรับรองของคนเลี้ยงแกะ, เรื่องราวของโหราจารย์ที่มาเฝ้าพระกุมาร, คำพยากรณ์ในหนังสือผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ (ซึ่งถือเป็นคัมภีร์ที่มีสำคัญเล่มหนึ่งของศาสนายูดายในเวลานั้น) และหลักฐานยืนยันเหตุการณ์การประสูติของพระเยซูซึ่งแม้จะไม่ได้เอ่ยถึงการประสูติจากหญิงพรหมจารีย์ก็ตาม เช่น เหตุการณ์การสั่งประหารเด็กทารกผู้ชายสองขวบลงมาโดยกษัตริย์เฮโรด, การทำสำมะโนประชากรที่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยจักรพรรดิออกัสตัส, ดวงดาวที่ปรากฏเหนือเบธเลเฮมในศตวรรษที่ 1 เป็นต้น

หนังสืออิสยาห์ 800 ปีก่อนคริสตกาล
ทำนายการประสูติของพระเยซูจากหญิงพรหมจารี

  1. สถานการณ์ของคริสต์ศาสนาในศตวรรษที่ 1 ถือเป็นช่วงเริ่มต้นและถูกต่อต้านจากศาสนายูดายเป็นอย่างมาก เรื่องการประสูติของพระเยซูจากหญิงพรหมจารีเคยถูกท้าทายจากผู้ต่อต้านหลายต่อหลายครั้งรวมทั้งผู้ที่อ้างตัวเป็นคริสเตียนด้วยเช่น เซลซัส, ซีรินธุส, คาร์โปเครเทส, และเอบิโอไนท์ แต่การคัดค้านตรงไปยังหลักคำสอนมากกว่ามุมมองทางประวัติศาสตร์ แต่ผู้เชื่อทั่วไปในยุคนั้นที่มีความยึดมั่นในหลักข้อเชื่ออย่างถูกต้อง (Orthodoxy) ให้การยอมรับในการประสูติของพระเยซูจากหญิงพรหมจารีอยู่ก่อนแล้ว
  2. มีหลักฐานทางเอกสารของอิคเนเทียส บิชอปแห่งคริสตจักรอันทิโอกแห่งซีเรีย (พลีชีพเพื่อพระคริสต์ในปี ค.ศ.117) อิคเนเทียสได้โต้แย้งและยืนยัน “คำสอนเรื่องพระคริสต์” รวมถึงการประสูติจากหญิงพรหมจารี ต่อลัทธิโดเซทิส

ภาพ St.Ignatius of Antioach ยอมสละชีพ
เพื่อยืนยันในความจริงเรื่องพระเยซูคริสต์ (ภาพวาดเมื่อปี ค.ศ.1000)

เรื่องราวการประสูติของพระเยซูผ่านนางมารีย์ หญิงพรหมจารี ผ่านการซักถามโต้แย้งอธิบายมาตลอด 2,000 ปี ทั้งหลักฐานของคำบอกเล่าจากหลายฝ่าย จากหลักฐานพระคัมภีร์และเอกสารอื่นๆ เป็นต้น ฉะนั้นอาจเหลือเพียงข้อสงสัยว่า “แล้วความจริงตามธรรมชาติหล่ะ มนุษย์จะเกิดมาขึ้นได้อย่างไรโดยปราศจากการผสมของไข่กับอสุจิ”

คำตอบเรื่องนี้จึงเหลือเพียงความเชื่อในการอัศจรรย์เท่านั้นที่จะสามารถตอบได้ แต่อย่างน้อยหลักฐานต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นก็สามารถเป็นเครื่องยืนยันหลายอย่างได้แล้ว และหากเรามองดูทุกอย่างในธรรมชาติด้วยใจเปิด เราไม่ตระหนักเลยหรือว่าธรรมชาตินั้นน่าอัศจรรย์จริงๆ

อ้างอิง:

  • อีริคสัน, เจ. มิลลาร์ด. ศาสนศาสตร์คริสเตียน เล่ม 2. กรุงเทพฯ: พระคริสตธรรมกรุงเทพ, 2009.
  • ทีเซ่น, เฮ็นรี่ แคลเรนซ์. ศาสนศาสตร์ระบบ. กรุงเทพฯ: กนกบรรณสาร, 2005.
  • เดวิส, จอห์น. เพิ่มความรู้. กรุงเทพฯ: กนกบรรณสาร, 2011.
  • Isbouts, Jean-Pierre. Who’s Who in the Bible. WS: National Geographic, 2013.

บทความ:  กนก ลีฬหเกรียงไกร
ภาพ: Phil Hearing on Unsplash, Aaron Burden on Unsplash
ออกแบบ:  Rainnie Design

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง