บทความ

อกหักไปเพื่ออะไร

“ผมคิดว่าประสบการณ์อกหัก
เป็นหนึ่งในกระบวนการสร้างชีวิต
ที่พระเจ้าอนุญาตให้เราพบเจอ
เพื่อเราจะเติบโตขึ้นและเข้าใจผู้อื่น”

บอล ทรงวุฒิ หรือเจ้าของนามปากกา ‘บอร์นเก้าสาม’ (ที่เขาเล่าว่าไม่ได้มาจากปีที่เกิดแต่อย่างใด แต่มาจากปีที่มารู้จักพระเจ้า) เจ้าของเพจเท่าที่รู้ เล่าให้ฟังว่า ตอนที่เริ่มต้นทำเพจใหม่ๆ นั้นเพิ่งจะเลิกกับแฟนมาหมาดๆ แต่จริงๆ แล้วเพจนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องความรักหรืออกหักเป็นหลัก ตั้งใจเอาไว้เขียนเรื่องทั่วๆ ไปมากกว่า

“จริงๆ ผมมีความฝันว่าอยากเป็นนักเขียนมานานแล้ว พอตอนนั้นเลิกกับแฟน ก็แค่คิดว่าเราอยากทำอะไรสักอย่าง จะได้ไม่ฟุ้งซ่านคิดมาก และอยากระบายความคิดไอเดียของตัวเองออกมาเป็นรูปธรรม ก็มีเพื่อนๆ หลายคนแนะนำว่าให้เปิดเพจ แรกเริ่มเดิมทีก็ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องความรักเป็นหลัก แต่พอไปๆ มาๆ เวลาเขียนเรื่องนั้นเรื่องนี้สลับกันไป แต่เรื่องที่มักจะได้รับความสนใจ มีคนกดไลก์ คอมเม้นท์ แท็กเพื่อน แชร์เยอะสุด ก็คือ เรื่องความรัก และถ้าย่อยลงไปอีก ก็คือบทความที่เกี่ยวกับคนอกหักนี่แหละ”

“ผมคิดว่าความรักเป็นประเด็นใหญ่ที่คนสนใจเสมอ ไม่ว่าจะวัยไหน มันเลยได้รับความนิยม แล้วพอผมเริ่มเขียนบทความลงเพจมากขึ้นเรื่อยๆ ก็พบว่า เออ คนในโลกนี้มีความรู้สึกจะเป็นจะตายกับเรื่องความรักมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”

ในหนังสือเล่มหนึ่งของคุณบอล มีบทความตอนหนึ่งเขียนไว้ว่า

มีอยู่วันอาทิตย์หนึ่งซึ่งเป็นวันที่ผมไปโบสถ์ตามปกติได้เจออาจารย์ที่โบสถ์ซึ่งสนิทกันเดินมาทักว่า

“บอล ยินดีด้วย ผมเข้าไปดูเพจมามีคนตามเยอะเลย”

“ขอบคุณพระเจ้าครับ”

แล้วอาจารย์ก็บอกผมว่า ขอบคุณพระเจ้านะ ที่พระเจ้าอนุญาตให้ผมเจอกับบางเรื่อง ทำให้ผมเข้าใจคนอื่นในบางแง่มุม แล้วได้เป็นพระพรต่อคนอื่นผ่านสิ่งที่ผมเขียน

จริงๆ แล้วผมมานึกดูว่าถ้าให้ผมมาเขียนเพจ (เท่าที่รู้) แบบนี้เมื่อห้าปีก่อน ผมอาจจะไม่มีอะไรให้เขียนได้แบบนี้ แต่พอมาถึงวันนี้ วันที่เข้าใจชีวิตบางอย่างมากขึ้น เพราะเราเคยผ่านมาเหมือนกัน

“อาจารย์ท่านนี้บอกผมว่า ยอมรับว่าเวลาให้คำปรึกษาคนอกหัก แล้วบางทีไม่ค่อยเข้าใจทุกอย่าง เช่น ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกมากขนาดนั้น ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว เราก็ตัดใจซิ ไปเปิดโอกาสเจอคนใหม่ๆ ยังมีคนอีกตั้งมากมาย ทำไมต้องมาติดกับคนคนนี้คนเดียว”

“ซึ่งผมเข้าใจสิ่งที่อาจารย์พูดนะครับ ประสบการณ์บางอย่าง ถ้าบางทีเราไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง บางเรื่องเราทำได้แค่แสดงความเห็นใจ แต่เราอาจจะไม่เข้าใจเขาทุกอย่างหรอกว่าเขารู้สึกยังไง คนที่ไม่เคยกินบอระเพ็ดมาก่อน ไม่รู้หรอกว่ามันขมขนาดไหน เช่นกันครับ คนเคยอกหักด้วยกันนี่แหละ ถึงจะเข้าใจคนอกหักด้วยกัน

ถ้าถามว่าความรู้สึกอกหักนี่มันแย่ขนาดไหน “มันไม่แย่อย่างที่คิดหรอกครับ แต่จริงๆ มันแย่กว่าที่คิดเลยล่ะ (หัวเราะ) คำว่าแย่ในที่นี้หมายถึงความรู้สึกขณะนั้นนะ มันเป็นความรู้สึกที่หมดอาลัยตายอยาก นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นเพื่อมาเฝ้าดูโทรศัพท์มือถือตัวเองว่าจะมีข้อความอะไรเข้ามาไหม กินอะไรไม่ลง นั่งๆ ทำงานอยู่เดี๋ยวก็ร้องไห้ออกมา มันเป็นความรู้สึกมวนท้องตลอดเวลา เหมือนตัวเองหล่นจากที่สูงลงมาไม่สิ้นสุดซะที ผมเคยนั่งร้องไห้อยู่บนรถกับเพื่อนสองชั่วโมงเต็มๆ นั่นขนาดว่าเหตุการณ์มันผ่านมาสองเดือนแล้วนะ”

“เข้าใจเลยว่า คนอกหัก โดนทิ้ง หรือผิดหวังมากๆ มันเป็นยังไง และผมเชื่อว่าในโลกนี้มีคนที่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้ที่อาจจะมากกว่านี้อีกจำนวนมาก และหลายคนที่ทุกวันนี้ก็ยังก้าวผ่านเรื่องนี้ไม่ได้สักที หรือไม่ก็วนเวียนอยู่ในความรู้สึกแบบเดิมๆ”

“แม้จะบอกว่าความรู้สึกอกหักมันแย่กว่าที่คิด แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็ไม่ได้แย่ซะทั้งหมด ถ้าเรามีหลักในการรับมือกับมัน ซึ่งผมคิดว่าคริสเตียนที่รู้จักพระเจ้ามีข้อดีสองอย่างในจุดนี้นะครับ”

อย่างแรก คือ หลักคิด เช่น ในฟีลิปปีบทที่ 4 ข้อ 18 บอกให้เราใช้เวลาไปกับการใคร่ครวญในสิ่งที่ดี ที่จริง ที่เป็นคุณประโยชน์แก่ชีวิตเรา คือเอาจริงๆ เวลาที่เราอกหัก ความรู้สึกเรามันไม่ไปหรอกครับ มันย่ำแย่มาก และมันต้องใช้เวลา แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรามีหลักคิดที่ดี มันเหมือนเรือเรามีสมอ แม้ความจริงขณะนั้นลมพัดคลื่นลมแรงมาก เรือถูกพัดไปมา แต่อย่างน้อยมันก็ยังอยู่กับที่ ไม่เตลิดไปไหน แม้มันจะยังไม่นิ่งเลยในทันที แต่วันหนึ่งคลื่นลมมันจะจบ วันหนึ่งพายุมันจะผ่านพ้นไป วันหนึ่งฝนมันจะหยุดตก และวันหนึ่ง ความรู้สึกที่เคยรู้สึกมาก กระวนกระวาย ทุรนทุราย มันจะค่อยๆ บรรเทา แล้วเราจะผ่านไปได้”

ประโยคที่มักชอบพูดกันว่า ‘คิดได้แต่ทำไม่ได้’ มันจริงแค่บางส่วนเท่านั้น หลายเรื่องที่เราคิดได้ แต่ยังทำไม่ได้นั้น หมายความแค่ว่า ทำไม่ได้ในตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้ตลอดไป พระวจนะ ทำให้เรามีหลักคิด การที่เรามีหลักคิด จะทำให้เราคิดได้ ถ้าเราคิดได้ วันหนึ่งเราจะทำได้แน่นอนครับ”

“และอย่างที่สอง คือ หลักยึด ซึ่งผมมองว่าการที่เรามีพระเจ้าที่เรามั่นใจได้ว่า รักเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทำให้เรามีความหวังครับ มันหมายความว่า ไม่ว่า ณ เวลานี้ สิ่งที่เราพบเจอจะดูเหมือนแย่ขนาดไหน แต่ตราบใดที่เรายังอยู่ในทางพระเจ้า มันจะมีแผนการที่ดีรองรับอยู่เสมอ”

“ดูอย่างโยเซฟได้ครับ ผมว่าความรู้สึกของเขาตอนที่ถูกพี่ชายขายไปเป็นทาส หรือโดนภรรยาของโปทิฟาห์ใส่ร้ายว่าจะเข้าหาและข่มขืนจนตัวเขาต้องติดคุก ผมว่าความรู้สึกเขาแต่ละวันก็อาจจะย่ำแย่ไม่ต่างกัน ผมไม่คิดว่าโยเซฟจะรู้สึกชิลล์แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรอกนะ คือ พระคัมภีร์อาจจะไม่ได้บรรยายความรู้สึกเขาไว้ละเอียด แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องแบกรับความรู้สึกที่ยากลำบากในแต่ละวันเหมือนกัน ไม่ได้จะผ่านไปได้ง่ายๆ แต่เขามีความหวังในพระเจ้าที่เขาเชื่อและมั่นใจ มันทำให้เขาผ่านช่วงเวลานั้นไปได้”

“มีคำพูดอีกประโยคหนึ่งที่เรามักพูดกันก็คือ ‘บางทีพูดน่ะมันง่าย แต่ทำน่ะมันยาก’ ซึ่งผมว่ามันก็ถูกนะ แต่คำว่ายาก มันคนละคำกับคำว่า เป็นไปไม่ได้ ครับ ใช่ เวลาเราอกหัก ฟังคำปลอบใจที่บอกว่า เดี๋ยวเราก็จะผ่านมันไปได้ มันฟังดูง่ายนะ แต่มันทำยาก แต่มันก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ ใช่ไหมครับ และอย่าลืมว่า อะไรก็ตามที่ยากๆ ถ้าเราผ่านมันไปได้ มันจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับเราเสมอ”

“ประสบการณ์ที่แตกสลาย อาจทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเลือกได้ ไม่อยากเจอเลย แต่ในความเป็นจริง เราจะพบว่า กลไกการถูกสร้างให้เติบโตขึ้นของพระเจ้า ส่วนใหญ่มาจากประสบการณ์ที่แตกสลายทั้งนั้น เมล็ดพืชที่หว่านลงไปในดิน ต้องเปื่อยเน่าก่อน ถึงจะเกิดขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ เวลาออกกำลังกาย กล้ามเนื้อต้องเจ็บปวดมันถึงจะเกิดเป็นมัดกล้ามได้ เปาโลก็ถูกทำให้ตาบอดก่อนที่จะกลายเป็นนักประกาศที่ยิ่งใหญ่ เปโตรก็เคยผ่านประสบการณ์ผิดหวังในตัวเองที่ปฏิเสธพระเยซูมาก่อน ดาวิดก็ถูกมองข้ามและดูถูกมาก่อนที่จะได้เป็นกษัตริย์ แม้แต่พระเยซูก็ถูกทรยศหักหลังและเจ็บปวดก่อนที่แผนการไถ่บาปของพระองค์จะสำเร็จ”

“ผมเชื่อว่าการอกหัก เป็นประสบการณ์แตกสลายที่พระเจ้าอนุญาตให้เราเจอ และผ่านมันมา เพื่อจะปั้นเราขึ้นมาใหม่ แม้ในด้านความรู้สึก มันอาจจะแย่กว่าที่คิด แต่ในด้านชีวิต มันมีสิ่งดีที่ซ่อนอยู่อีกมากมายครับ”

“เมื่ออกหัก เราได้เรียนรู้และเข้าใจการรับมือกับความผิดหวัง เราได้ทบทวนข้อเสียและเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราได้เข้าใจคนอื่นที่มีประสบการณ์คล้ายเรามากขึ้น เราได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นได้ เราได้หัดเป็นคนที่รู้จักมองไปข้างหน้า เราได้ฝึกความเชื่อในพระเจ้า ได้หัดเป็นผู้รอคอยที่ดี ถ้ามองดูให้ดีและถูกทาง ในเรื่องแย่ๆ มีเรื่องดีซ่อนอยู่เสมอ ถ้าเรามองหา เราจะเจอครับ”

“เคยมีคนพูดไว้ว่า ‘บางทีพระเจ้านำพาบางคนออกจากชีวิตคุณ เพราะมีสิ่งที่ดีเตรียมเอาไว้ให้ คิดให้ดีก่อนที่จะวิ่งไล่ตามเขากลับมา’ บางทีเมื่อเราเจอกับประสบการณ์อกหัก คนที่เราควรวิ่งไล่ตามไม่ใช่คนที่เดินออกจากชีวิตเราไป แต่ควรเป็นพระเจ้ามากกว่า เชื่อเถอะว่าพระเจ้ามีสิ่งดีเตรียมไว้ให้เราเสมอครับ ได้พระเจ้าก็ได้ทุกสิ่ง”

 

บทความ:  คุณทรงวุฒิ (บอร์นเก้าสาม, เพจเท่าที่รู้)
ภาพ: บอร์นเก้าสาม

ออกแบบ:  promise

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง