ชายคนหนึ่งเติบโตมาจากครอบครัวคริสเตียน และเมื่อต้องเดินทางไปทำงานต่างเมือง คุณแม่ได้ขอให้เขารับปากว่าจะไปนมัสการพระเจ้าที่คริสตจักรทุกวันอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เมื่อเดินทางไปทำงานต่างเมือง เขาได้รู้จักเพื่อนหลายคนและคบหากับอย่างสนิทสนม
กระทั่งสัปดาห์หนึ่ง เพื่อนได้คะยั้นคะยอให้เขาขี่ม้าไปเที่ยวด้วยกันในวันอาทิตย์ เขาจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่และพระเจ้าว่าจะไม่ขาดคริสตจักรในทุกวันอาทิตย์ จึงปฏิเสธเพื่อนไป แต่เมื่อถูกคะยั้นคะยอมากเข้าจนยากจะปฏิเสธ เขาจึงตัดสินใจขี่ม้าไปเที่ยวกับเพื่อนในวันอาทิตย์
ระหว่างทาง เขาขี่ม้าผ่านโบสถ์ เห็นผู้คนมากมายกำลังจะเข้ารอบนมัสการ เสียงระฆังเริ่มรอบนมัสการดังขึ้น เขาเริ่มนึกถึงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่และพระเจ้า แต่ก็ยังคงฝืนขี่ม้าห่างออกไปจากโบสถ์เรื่อยๆ
เสียงระฆังดังขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง…
ครั้งที่สาม แต่เสียงของมันค่อยๆ แผ่วเบาลง จนเมื่อเกือบจะผ่านออกจากเมืองไป เขาจึงได้ตัดสินใจกลับหลังหันเพื่อกลับไปยังโบสถ์ เขาพูดกับเพื่อนว่า “เพื่อนเอ๋ย ฉันเป็นคริสเตียน… และฉันตั้งใจไว้ว่าจะไม่ขาดโบสถ์เลยสักอาทิตย์เดียว”
“และยิ่งขี่ม้าไปเรื่อยๆ ฉันก็ยิ่งได้ยินเสียงระฆังโบสถ์แผ่วเบาลงเรื่อยๆ… ฉันฝืนไปต่อไม่ได้อีกแล้ว เพราะถ้าขืนยังไปต่อ ฉันจะไปไกลเกินจนไม่ได้ยินเสียงระฆังอีกเลย ฉันจึงต้องกลับแล้ว ก่อนที่จะเลยเถิดจนไม่ได้ยินเสียงระฆังอีกต่อไป”
อย่าให้ตัวท่านไปไกลเลยเถิด จนไม่ได้ยินเสียงของพระวิญญาณอีกต่อไป ให้เสียงระฆังเตือนของพระเจ้าดังในใจของเรา อย่าฝืนไปต่อถ้ารู้ว่ามันผิด
ที่มา: Anonymous
ภาพ: Peter Bucks on unsplash
ออกแบบภาพ: Zippy
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น