บทความ

ความรักในอำนาจ vs อำนาจแห่งความรัก

เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานใจที่ขลาดกลัวแก่เรา
แต่ประทานใจที่ประกอบด้วยฤทธานุภาพ ความรัก และการบังคับตนเองแก่เรา
(for God gave us a spirit not of fear but of power and love and self-control – ESV)
– 2 ทิโมธี 1:7 –

ถ้าเรารัก เราจะไม่กลัว ความรักทำให้เราหายกลัว
เพราะในความรักไม่มีความกลัว แต่…ความชั่วก็อาจทำให้เราไม่กลัวเช่นกัน

แล้วอย่างนั้นจะต่างกันตรงไหน? ต่างกันตรงที่…

ความรักมาจาก “พระเจ้า” ทำให้เราไม่กลัวใน “การทำดี” ที่มีคุณค่า
แต่ความชั่วมาจาก “มารและเนื้อหนัง” ทำให้เราไม่กลัวใน “การทำสิ่งเลว” ที่ไร้คุณค่า!

พระคัมภีร์บอกเราว่า พระเจ้าประทานจิตที่กล้าหาญในการทำดีให้แก่เรา ไม่ใช่จิตที่ขลาดกลัว (timid หรือ fear)! แต่พระองค์ประทานจิตที่กอปรด้วย

  • ฤทธิ์ (อำนาจ) POWER
  • ความรัก LOVE และ
  • การบังคับตนเอง SELF-DISCIPLINE

ให้แก่เรา!

เราจึงควรมี(ฤทธิ์)อำนาจที่จะรัก
และอย่าไปทำกลับกันคือ
ไปรักใน(ฤทธิ์)อำนาจ!

ทุกวันนี้ โลกวุ่นวาย สังคมวุ่นวาย คริสตจักรวุ่นวาย และครอบครัววุ่นวาย
ก็เพราะ การขาดการบังคับตนในเรื่องอำนาจ และความรัก!

เพราะมีการใช้อำนาจ และความรัก ไปในทางที่ขาดวิจารณญาณ!
โลกจึงไม่น่าอยู่ เมื่อมีการ(หลง)รัก (love) ในอำนาจ (power)
แต่โลกน่าอยู่มากขึ้น เมื่อ มีการใช้อำนาจแสดงความรักต่อกันและกัน!

Jimi Hendrix ศิลปินนักแต่งเพลงชื่อดังเคยกล่าวว่า

“เมื่ออำนาจแห่งความรัก มีชัยเหนือความรักในอำนาจ โลกจะรู้จักคำว่าสันติภาพ!”
(When the power of love overcomes the love of power, the world will know peace.)

ใช่ครับ ถ้าอำนาจและความรัก อยู่ถูกที่ถูกทาง โลกจะน่าอยู่มากขึ้น เพราะอบอวลและอบอุ่น ด้วยสันติสุขและสันติภาพ เพราะโลกที่อยู่ในวังวนแห่งการรักในการแย่งชิงอำนาจ และโลกที่ปราศจากอำนาจแห่งความรักแท้จากพระเจ้า มนุษย์จะอยู่กันอย่างมีความสุขไม่ได้ ดังคำเปรียบที่ว่า

“ดอกไม้ไม่อาจผลิบานได้ หากปราศจากแสงตะวัน
และมนุษย์เราก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากความรัก!”
(A flower cannot blossom without sunshine, and man cannot live without love.)
Max Muller

และดังคำกล่าวของปราชญ์ คาลิล ยิบราน (Khalil Gibran) ที่ว่า

“ชีวิตที่ปราศจากความรัก ก็เปรียบเหมือนกับต้นไม้ที่ไร้ดอกบาน และผลงาม”
(Life without love is like a tree without blossoms or fruit.)

ออสการ์ ไวลด์ (Oscar Wilde) นักเขียนชื่อดังก็เสริมว่า

“จงรักษาความรักไว้ในหัวใจของคุณ ชีวิตที่ไร้รักก็เป็นดังสวนที่ไร้แสงอาทิตย์ และดอกไม้ก็ร่วงโรย”
(Keep love in your heart. A life without it is like a sunless garden when the flowers are dead.)

โรเบิร์ต บราวนิ่ง (Robert Browning) ถึงกับกล่าวว่า

“หากไร้รัก โลกจักกลายเป็นหลุมศพ!”
(Without love, our earth is a tomb)

แต่ มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi) สรุปเลยว่า

“ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีชีวิต!”
(Where there is love there is life.)

พี่น้องที่รัก วันนี้ คุณกำลังวุ่นวายอยู่กับการต่อสู้ในเกมแย่งชิงอำนาจ (ที่ไร้รัก) กับผู้ใดอยู่หรือไม่?
อย่าเกลียดชัง มุ่งร้าย หรือมุ่งกำจัดผู้ใด โดยปราศจากความรักและความเห็นใจ

วันนี้ ชีวิตของคุณ ครอบครัว การงาน และการรับใช้ของคุณ เป็นดุจสวนที่ไร้แสงตะวันหรือไม่?

อย่าสาละวนอยู่กับการจริงจังในการตัดต้นไม้ในสวนของคนอื่น
แต่คุณจงหว่านและปลูก เมล็ดแห่งความรักลงไปในสวนของคุณเอง ณ บัดนี้

…จงให้ อำนาจแห่งความรัก มีชัยเหนือ ความรักในอำนาจ

ด้วยการร่วมมือร่วมใจกันใช้อำนาจที่คุณมี (ไม่ว่ามากหรือน้อย) ใส่ความรักลงไปในชีวิตของคนบางคนที่กำลังต้องการอยู่

…จะดีไหม?

 

บทความ:  อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
ออกแบบภาพ:  Mantana

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง