S – อ่านพระคัมภีร์ (Scripture) : ลูกา 17:7-10
(7) “ถ้าพวกท่านมีบ่าวออกไปไถนาหรือเลี้ยงแกะ และเมื่อบ่าวคนนั้นกลับมาจากทุ่งนา ท่านจะบอกเขาหรือว่า ‘เชิญนั่งลงรับประทานเถิด?’ (8) ท่านจะไม่บอกเขาหรือว่า ‘จงไปหาอะไรมาให้เรารับประทานและคาดเอวไว้คอยปรนนิบัติระหว่างที่เรากินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงค่อยกินและดื่มเถิด?’ (9) นายจะขอบใจบ่าวนั้นเพราะบ่าวทำตามคำสั่งหรือ? (10) เช่นเดียวกัน เมื่อพวกท่านทำสิ่งสารพัดที่เราบัญชาไว้กับท่านแล้ว ก็จงพูดด้วยว่า ‘เราเป็นบ่าวที่ไม่ได้มีบุญคุณต่อนาย เราเพียงแต่ทำตามหน้าที่ ที่ควรจะทำเท่านั้น’ ”
O – การใคร่ครวญ (Observation)
หนึ่งในเรื่องที่ผู้เชื่อมักเข้าใจผิดคือความคิดว่า “เมื่อให้พระเจ้าก่อน พระองค์จะอวยพรเราคืน” เราอาจหนุนใจให้คนถวายทรัพย์ด้วยเหตุผลจูงใจว่า “เดี๋ยวพระเจ้าจะเทพระพรคืนให้ ถ้าเรารับใช้ ถ้าเราอธิษฐาน พระเจ้าจะอวยพรชีวิต” เราทำหน้าที่ของเราแล้ว พระองค์ต้องทำหน้าที่ของพระองค์ด้วย
มันดูคล้ายกับว่า พระเจ้ากลายเป็นหนี้บุญคุณเมื่อเราได้ทำอะไรบางอย่างให้พระองค์ เราเรียกความคิดแบบนี้ว่า “ระบบต่างตอบแทน” ซึ่งถูกกำหนดด้วยเงื่อนไขว่า ต้องทำถึงจะได้ เมื่อทำแล้วต้องได้ แต่พอทำแล้วไม่ได้ เราจะหาเหตุผลมารองรับเช่น ท่าทีแรงจูงใจไม่ถูกต้องบ้าง มีความบาปในชีวิตบ้าง ยังไม่ถึงเวลาบ้าง
“ผลประโยชน์” ตรงข้ามกับ “การให้เปล่า” ระบบต่างตอบแทนจึงเป็นหลักคิดที่สวนทางเรื่องของ “พระคุณ” การจะเข้าใจเรื่องพระคุณได้ดี ควรเริ่มจากยอมรับเรื่องสถานะ “นาย-บ่าว” เหมือน สดุดี 16:2 กล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นองค์เจ้านายของข้าพระองค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่มีสิ่งดีใดเลย” ควรหรือที่เราจะไปต่อรองอะไรกับองค์ผู้สูงสุด
แม้บนสถานะที่เราต่อรองไม่ได้นั้น “ความรัก” กลับเป็นเหตุผลเดียวที่ขับเคลื่อนหัวใจของพระเยซู ทรงยอมสละเพื่อคนที่ไม่สมควรได้อย่างเรา และเมื่อไรก็ตามที่เรา “อยากตอบแทน” โดยไม่ขึ้นกับเงื่อนไขใดๆ นั่นแหละเรากำลังเข้าใจ “พระคุณ” แล้ว
A – การประยุกต์ใช้ (Application)
รากฐานเรื่องพระคุณคือหัวใจหลักในตลอดเส้นทางชีวิตผู้เชื่อ พระคัมภีร์จึงเตือนใจเราว่า “จงระวังให้ดี อย่าให้ใครขาดจากพระคุณของพระเจ้า” พระคุณเป็นเรื่องหนักแน่นแต่ไม่หวือหวา ผู้เชื่อจึงมักละเลยและเพิกเฉย
ให้เราหมั่นสำรวจการดำเนินชีวิตในพระคุณของตัวเองว่าเราแสดงออกถึงหัวใจที่ขอบพระคุณพระเจ้าในทุกเหตุการณ์ไม่ว่าดีหรือร้ายหรือไม่ เรายังมีคำพูดขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ใช่แค่คำพูดติดปาก แต่เป็นคำที่ออกมาจากใจที่สำนึกในพระคุณอย่างแท้จริงหรือไม่ ใจขอบพระคุณคงทำให้เราอยากแชร์เรื่องราวที่พระเจ้ากระทำในชีวิตเรา คงทำให้เราเข้ามาร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยหัวใจที่ชื่นบาน และคงทำให้เรามีความเมตตาและเห็นอกเห็นใจคนอื่นด้วยเช่นกัน
P – คำอธิษฐาน (Prayer)
ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระคุณอันไพบูลย์ของพระองค์ ขอให้ข้าพเจ้าไม่หลงลืมพระคุณพระองค์ แต่จะสำนึก ซาบซึ้งและเคลื่อนหัวใจข้าพเจ้าให้ใช้ชีวิตแบบเดียวกับที่เปาโลพูดว่า “ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า”
บทความ: ChristLike Team
ภาพ: Milad B. Fakurian on Unsplash
ออกแบบ: Nan Tharinee
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น