1. ปีนี้ได้ขับรถมากขึ้น ได้ใช้กูเกิลนำทางบ่อยขึ้น ซึ่งช่วยให้เราสามารถไปในที่ที่เราไม่เคยไปได้ ทั้งยังประมาณระยะเวลาให้ด้วย. แต่แม้กระนั้น บางครั้งเราก็ยังคงไปสาย และก็อธิบายกับตัวเองว่า เป็นความผิดเล็กน้อย ส่วนใหญ่มาจากรถติดเป็นพิเศษบ้าง หรือบางครั้งก็ว่ากูเกิลบอกทางไม่ดีบ้าง แต่มีอยู่วันหนึ่ง ได้ยินลูกเตือนให้ระวังเรื่องเวลาออกเดินทาง จึงได้คิดว่า จริงด้วย เราไม่สามารถรู้ว่ารถจะติดแค่ไหนอย่างแน่นอน และบางครั้งเราก็อาจเลือกเส้นทางผิด แต่สิ่งที่เราทำได้ คือ การเผื่อเวลาให้ดีขึ้น ตอนนี้ผมเริ่มฝึกที่จะวางแผนเวลาให้ดีขึ้น พยามยามกำหนดเวลาให้ไปถึงก่อนสัก 15-20 นาที. ถึงตอนนี้ อดนึกถึงผู้ใหญ่บางท่านรวมทั้งนายเก่าชาวเบลเยี่ยม ที่มักไปถึงที่หมายก่อนเวลาเสมอ ซึ่งให้สันติสุขมากขึ้น เตรียมความพร้อมก่อนประชุมได้ดีขึ้น และมีโอกาสสร้างมิตรภาพกับเพื่อนร่วมประชุมงานมากขึ้นด้วยครับ 😊
2. ผมเป็นคนแพ้อากาศเย็น โดยเฉพาะเวลามีลมพัดใส่ก็จะจาม ที่แย่คือ พอจามครั้งที่หนึ่งแล้วก็จะจามครั้งที่สอง ครั้งที่สาม … อย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมหยุดง่ายๆ มีอยู่วันนึง ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า แล้วนั่งอ่านอะไรอยู่หน่อย แล้วก็เริ่มจาม ต่อมาค่อยรู้ว่าที่ตัวเองจามต่อเนื่องเช้านั้น ทำให้ภรรยาต้องรู้สึกตัวตื่นแต่ดึกโดยไม่จำเป็นไปด้วย จึงได้มาคิดว่า การที่เราแพ้อากาศและจามนั้น แม้จะไม่ใช่ความผิด แต่เมื่อเรารู้ตัวว่า ตัวเองจะจามต่อเป็นชุด ก็สามารถออกจากห้องนอน ไปนั่งอ่านหนังสือและจามโดยไม่ต้องรบกวนคนอื่นได้นี่นา ผมเรียนรู้ว่า เราสามารถแสดงความรักด้วยการปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนอย่างที่เราอยากให้เขาปฏิบัติต่อเราได้ โดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ยกเว้นความใส่ใจดูแลกันด้วยความรัก 😊
3. วันเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน บางครั้งเมื่อวันหมดลง เรารู้สึกว่า วันนี้ยุ่งจังแต่กลับไม่ได้ทำในสิ่งที่สำคัญเป็นชิ้นเป็นอัน คิดถึงหนังสือเล่มหนึ่งเขาสอนให้ฝึกจดบันทึกบนหน้ากระดาษที่แบ่งเป็นช่อง เขาแนะนำให้ใช้กระดาษ A5 ซึ่งก็คือขนาดกระดาษที่เกิดจากการพับครึ่งของกระดาษ A4 นั่นเอง โดษแบ่งกระดาษเป็นตาราง 6 ช่อง ตั้งกระดาษตามขวาง ผมชอบใส่วันที่ไว้หัวมุมด้านขวาบนกระดาษ แล้วใช้ช่องขวาบนบันทึกเวลานัดหมาย หรือ กำหนดเวลาทำงานบางอย่างไว้แล้ว ส่วนอีก 5 ช่อง ก็จะใส่สี่หรือห้าเรื่องที่สำคัญของวันนี้ แล้วก็จะใส่ เลข 1 2 3 ตามความสำคัญเร่งด่วน และความเหมาะสมของช่วงเวลาที่มีในตอนนั้น เวลาทำงานชิ้นใดไปแล้วก็จะใช้ปากกาอีกสีหนึ่งติ๊กถูก ผมพบว่าการแบ่งช่องเขียนอย่างนี้ ให้การแบ่งความคิดได้ดีกว่าการเขียนเรียงเป็นบรรทัดยาวๆ ตอนนี้ผมหาซื้อสมุดขนาด A5 แบบไม่มีเส้นมาใช้แทนการใช้กระดาษเป็นแผ่นๆ ได้งานมากขึ้น ได้ความต่อเนื่อง และสนุกดีด้วยครับ 😊
4. บทเรียนที่สนุกมากอีกอันหนึ่งมาจากการดูซีรี่ส์ Home Town Cha Cha Cha กับภรรยาและลูกครับ พวกเราชอบบรรยากาศในกงจินที่เป็นบ้านนอก แม้ไม่มีความสะดวก ความสนุกสนานของเมืองใหญ่ แต่มีความสัมพันธ์ที่เป็นกันเอง เป็นเพื่อนบ้านที่รักและห่วงใยกันและกัน ชอบเป็นพิเศษที่หัวหน้าฮงคอยดูแลผู้อาวุโสในหมู่บ้าน โดยไม่เพียงแต่ดูแลไม่ให้ลำบาก แต่มีการคุยเล่นเย้าแหย่อย่างสนิทสนม รวมทั้งการเป็นผู้รับ ร่วมทานอาหารที่คุณยายทำให้ทานอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้ผู้อาวุโสไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองน่าสงสาร แต่มีชีวิตชีวาในการดำเนินชีวิตด้วยความภูมิใจและมีความสุขได้ ดูแล้วก็นึกถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด ไม่ว่าที่บ้าน หรือที่โบสถ์ อยากเป็นอย่างหัวหน้าฮงที่เห็นคุณค่าของผู้อาวุโส และให้เกียรติ ให้ความรักท่านอย่างเหมาะสม 😊
5. ได้มีโอกาสศึกษาแผนการอ่านพระคัมภีร์เฝ้าเดี่ยว เรื่อง Peace on Earth Devotion จาก App You Version ผู้เขียนพูดถึงว่าการดึงจิตวิญญาณของคริสต์มาสกลับมาในชีวิตของเรา บางครั้งเราไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยง เราไม่ชอบความรู้สึกเหงาท่ามกลางบรรยากาศที่ครื้นเครง ข้อแนะนำก็คือ ให้เราไปร่วมงานนั้นตามหน้าที่ แต่แทนที่จะมองแต่ตัวเองแล้วจมอยู่กับความเหงา…ให้คิดถึงคนอื่น เช่น อาจเข้าไปคุยกับแขกที่ยืนโดดเดี่ยวอยู่มุมห้อง หรือเด็กวัยรุ่นที่กำลังทุกข์กังวลกับเรื่องบางอย่าง เพราะเมื่อเราเปลี่ยนมุมมองไปสู่การเป็นผู้ให้ เราก็ได้ปลดปล่อยตัวเองจากการหมกมุ่นวนเวียนกับการสงสารตัวเอง เข้าท่าจัง … เหมือนหัวหน้าฮงเลย เป็นผู้หนุนใจให้พลังผู้คนเสมอ 😊
6. ในห้วงเวลาแห่งวิกฤติโควิด คนส่วนใหญ่เผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจในบางระดับ แต่ผมได้เห็นคนจำนวนหนึ่งที่แม้ตัวเองจะมีปัญหาของตัวเองอยู่ แต่ก็ได้ยื่นมือออกไปช่วยเหลือคนที่ลำบากกว่า และตัวอย่างที่ใกล้ชิดก็คือหมู่ผู้นำและสมาชิกในโบสถ์ของเราที่ช่วยกันสอดส่องดูแลพี่น้องที่ประสบความลำบาก ทั้งเรื่องอาหารการกิน หยูกยา และการหนุนน้ำใจกัน นอกจากนี้ยังมีผู้นำบางคนที่ริเริ่มโครงงานนำอาหารและสิ่งจำเป็นให้คนไร้บ้าน เห็นแล้วก็นึกถึงอุปมาของพระเยซู ที่องค์ราชันตรัสว่า ซึ่งท่านได้กรุณาต่อคนเล็กน้อยที่สุด ก็เหมือนกรุณาต่อพระองค์ด้วย เป็นแบบอย่างที่เป็นรูปธรรม และเป็นความหวังของสังคมที่งดงามจริงๆ 😊
7. บทเรียนสุดท้าย คือ เรื่องของสุขนิสัยเพื่อสุขภาพที่ดีครับ ปีนี้ได้มีโอกาส อ่านหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพดีๆหลายเล่ม หนึ่งในนั้นคือ “การฟื้นฟูร่างกายวิถีแสตนฟอร์ด” ซึ่งพูดถึงการฝึกนักกีฬาให้ไม่เหนื่อยง่าย และฟื้นฟูพลังขึ้นมาใหม่ได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งสิ่งที่ผมได้ เรียนรู้สำคัญสองอย่างที่อยากจะเอ่ยถึงเป็นพิเศษ คือ การฝึกหายใจ และการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ผมได้มีโอกาสรื้อฟื้นทักษะโยคะที่เคยฝึกมาใช้ในชีวิตประจำวัน การหายใจยาวขึ้น ฝึกกลั้นหายใจบ้าง ตลอดจนการหายใจด้วยท้อง ซึ่งทำให้ใจสงบขึ้น และร่างกายนำออกซิเจนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอบคุณพระเจ้าที่เดี๋ยวนี้ เราสามารถเรียนรู้เทคนิคการหายใจได้หนังสือหรือจากยูทูปได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องการนอนนั้น ผมก็ได้ฝึกนิสัยของการอ่านบทเฝ้าเดี่ยวที่ดีๆ ดึงใจเราเข้ามาหาพระเจ้าก่อนนอน และเราจะอธิษฐานขอพรแห่งการนอนหลับสบาย ขอการฟื้นฟูร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณ เพื่อที่วันรุ่งขึ้นเราจะได้ตื่นขึ้นด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง เป็นสุขนิสัยที่เวิร์คสำหรับผมครับ 😊
#ChristLike #BecomingLikeChrist
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น