1. บางครั้งเหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้กับคนทั้งโลก อย่างเช่นโควิด-19 ซึ่งตัวเราเองก็เพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา ทำให้เราเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีสติและระมัดระวังมากขึ้น เพื่อความรอดและปลอดภัยของตัวเราเองและเพื่อทุกๆ คนรอบตัวเราด้วย คล้ายๆ กับว่าเรากำลังอยู่ในสงครามโรค ที่เรามองไม่เห็นศัตรู ทางรอดคือเราต้องหลบอยู่ในบ้าน ถ้าเราจำเป็นต้องออกจากบ้านเราต้องมีอาวุธครบ คือฉีดวัคซีน ใส่หน้ากากอนามัย พกแอลกอฮอล์ รวมถึงล้างมือบ่อยๆ ดังนั้นปีที่ผ่านมาเราจึงเรียนรู้ที่จะอยู่บ้านมากขึ้นไม่ออกไปให้ศัตรูเห็นค่ะ
2. เนื่องจากเราเป็นเจ้าของกิจการ ต้องดูแลลูกน้องหลายสิบชีวิต และกว่าครึ่งคือคนงานต่างด้าว ในช่วงปีที่ผ่านมา เราต้องให้ความรู้เกี่ยวกับโรคโควิดกับคนงานต่างด้าวมากเป็นพิเศษ สถานการณ์โควิดทำให้รู้ว่าเราต้องดูแลกันและกัน เราจะรอดไปคนเดียว หรือรอดเฉพาะคนชาติเราไม่ได้ เราจะรอดก็ต่อเมื่อทุกคนรอด เรารู้ว่าคนงานทุกคนมีความกลัวไม่ต่างจากเราหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นเราจึงดูแลคนงานทุกคนเป็นอย่างดี เวลาเค้าเจ็บป่วยก็ดูและรักษาเป็นที่พึ่งให้เค้า ทำให้เค้าคลายความวิตกกังวลไปได้มาก
3. ปีที่ผ่านมาเราเรียนรู้ที่จะมีความสุขง่ายๆ กับสิ่งที่พระเจ้าสร้างมากขึ้น เวลาที่เราถูก lock down อยู่กับบ้านเป็นเวลาที่เราไม่ต้องใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ไม่ต้องเดินทางไปทำงาน ทำให้เรามีเวลาหันมามองสรรพสิ่งสวยงามรอบตัว ได้หายใจลึกๆ ได้ยินเสียงนกร้อง เห็นนกบิน ผีเสื้อบิน กระรอกวิ่งไล่กัน เป็นความสุขรอบตัวที่ไม่ต้องซื้อหา
4. เราได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับทุกคนในครอบครัวอย่างมีความสุข ได้ดูแลกันและกัน ได้ทานข้าวกับครอบครัวทั้ง 3 เวลา หากใครมีลูกๆที่โตแล้ว ถ้าเป็นเวลาปกติลูกทุกคนคงต้องออกไปทำงาน คงไม่มีเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้ นี่คงเป็นโอกาสพิเศษที่เราคงไม่ลืม และคงมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้นึกถึง
5. ในช่วงปีที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองมากขึ้น เนื่องจากการไปหาหมอฟันไม่สะดวก จึงต้องดูแลฟันตัวเองเป็นอย่างดี และพบว่าผลเป็นที่น่ายินดีหลังจากไปพบหมอฟันเมื่อสัปดาห์ก่อนเราไม่มีฟันผุเพิ่มขึ้นเลยในเวลาเกือบ 2 ปีที่ต้อง lock down นอกจากนี้เรายังได้ฝึกตัดผมให้ตัวเองโดยส่องกระจก และฝึกตัดผมให้ลูกๆด้วย ฝึกทำใจว่าได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว แม้จะตัดเสียไปบ้าง แหว่งไปบ้าง แต่โบราณบอกว่าตัดผมผิดคิดเจ็ดวันหายนั้นเป็นเรื่องจริงเพราะพอผ่านไป 7 วันผมก็ยาวขึ้นมาแล้วทำให้ไม่น่าเกลียดเกินไป และเรายังได้ฝึกทำอาหารเมนูใหม่ๆ มาทานในครอบครัวอีกด้วย เนื่องจากเราต้องทานข้าวที่บ้านทุกมื้อ ทำให้เมนูเดิม ๆ มันน่าเบื่อ เลยได้ฝึกเข้าไปดูคลิปทำอาหารจาก youtube และลองฝึกทำได้หลายอย่างขอบคุณเทคโนโลยี
6. ในช่วงที่ผ่านมาเราออกไปห้างไม่ได้ ทำให้เรามีเวลาหันกลับมาสำรวจข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทำให้เราพบว่าเรามีข้าวของที่ทั้งของกินของใช้ที่ยังไม่ได้เอาออกมากินมาใช้อีกมากมายเก็บอยู่ในตู้ ซึ่งเคยซื้อมาก่อนหน้านี้ตามอารมณ์มากกว่าตามความจำเป็น ปีที่ผ่านมาเราได้คิดใหม่และเริ่มนำสิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้ออกมาใช้ออกมากินจนจะหมดปีแล้ว แต่ของบางอย่างยังไม่หมดจากตู้ก็มี เราจึงคิดว่าต่อไปนี้หากมีของที่ต้องใช้หมดลง เราบอกตัวเองว่าจะซื้อใหม่ครั้งละ 1 ชิ้นแค่พอใช้จะไม่ซื้อตามอารมณ์จำนวนมากๆอีก
7. จากข่าวที่เราได้เห็นว่าธรรมชาติได้กลับมาดีขึ้นอย่างมากในช่วงโควิด ทั้งชั้นบรรยากาศ ทะเล แม่น้ำลำคลอง ป่าไม้ ก็เพราะมนุษย์ชาติถูก lock down ธรรมชาติไม่ถูกใช้อย่างสิ้นเปลืองหรือถูกทำลายเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้เราเรียนรู้ ตระหนักมากขึ้นที่จะรัก ช่วยดูแล และหวงแหน ธรรมชาติต่างๆ พร้อมทั้งสอนลูกหลานในเรื่องเหล่านี้เพื่ออนาคตของพวกเค้าเองค่ะ
#ChristLike #BecomingLikeChrist
The Conversation
No Comments