หลังจากที่ได้เขียนถึง 7 สิ่งที่ได้เรียนรู้ไปเมื่อสองปีที่แล้ว ในช่วงปลายปี 2019 ก่อนที่โควิดจะระบาดไปทั่วโลก
โลกนี้ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างมากมาย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงอยากจะบันทึกการเดินทางหลังจาก 2 ปีผ่านไป ว่าหลังจากนั้นมีอะไรบ้างที่ผมได้เรียนรู้ เป็นการต่อยอดจากสิ่งที่เคยแบ่งปันเอาไว้ก่อนหน้านี้ในหัวข้อที่คล้ายๆ เดิม โดยเพิ่มเติมคือมุมมองที่อัพเดทมากขึ้น
โดยขอใช้หัวเรื่องว่า “7 สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ใน 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อโลกนี้เปลี่ยนไป”
เวลา เป็นสิ่งที่มีค่ามากยิ่งขึ้น สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา มีหลายคนที่ต้องสูญเสียคนรอบตัวไป เราเห็นความจริงว่าชีวิตเป็นสิ่งที่เปราะบางเหลือเกิน เราใช้เวลากับคนที่สำคัญและสิ่งที่ควรใช้อย่างเต็มที่หรือยัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพระคริสต์จะเสด็จกลับมาเร็วๆ นี้ เราเองได้ทำตามพระมหาบัญชาของพระองค์แล้ว มากน้อยแค่ไหน
มุมมองของคนทั่วโลกที่มีต่อสุขภาพเปลี่ยนไป การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้น การป้องกันตัวเองก็ถูกพูดถึงด้วยหลายๆ วิธี ซึ่งผู้คนก็มีความเห็นที่แตกต่างกันออกไป และยังไม่มีการป้องกันใดของมนุษย์ที่พิสูจน์ได้ว่าเห็นผล 100% สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องรู้และตระหนักคือ การปกป้องสูงสุดนั้นอยู่ในพระเจ้า (สดด.91) ให้เราอธิษฐานอวยพรร่างกายของตัวเอง ให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีเลิศ และสามารถป้องกันโรคภัยต่างๆ ได้ อย่างที่พระเจ้าได้ทรงสร้างเราขึ้นมา และอย่าให้ความกลัวมีผลกับชีวิตของเราจนลืมไปว่าชีวิตและร่างกายของเรานี้เป็นของพระเจ้า
สำหรับผู้ใหญ่ 2 ปีที่ผ่านมาอาจจะเป็นช่วงเวลาที่หยุดนิ่ง แต่สำหรับเด็กการเติบโตยังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว 2 ปี เป็นเวลาที่มากพอสำหรับเด็กคนนึงที่ก้าวมาสู่วัยรุ่น จงเรียนรู้จากเด็ก คาดหวังการเติบโตในทุกสถานการณ์ และให้การเติบโตมาจากภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตในฝ่ายวิญญาณของเรา อย่าถูกจำกัดโดยสถานการณ์ภายนอก
โควิดทำให้เราเจอคนน้อยลง มีกิจกรรมร่วมกันน้อยลง แต่อย่าลืมความสัมพันธ์ต่างๆ ที่สำคัญในชีวิต รักษาและทะนุถนอมความสัมพันธ์ที่มีค่าเอาไว้ ซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่ควรซ่อม และพิจารณาลดหรือตัดความสัมพันธ์ใดๆ ทั้งกับคน, สิ่งของและกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ หมั่นจัดลำดับความสำคัญของความสัมพันธ์ต่างๆ ในชีวิตอยู่เสมอ ให้ตัวเบาๆ และสามารถวิ่งต่อไปได้แบบไม่เหนื่อย
ขณะที่เราเจอบางคนน้อยลง ขณะเดียวกันเราก็ต้องเจอบางคนมากขึ้น ยิ่งเจอกันยิ่งมีโอกาสไม่เข้าใจกัน การให้อภัยจึงยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ และจะมีความสำคัญตลอดไป ถึงแม้บางครั้งการให้อภัยที่ยากที่สุด คือการให้อภัยคนที่เรารักหรือใกล้ตัวที่เราไม่อาจจะหลบหน้าไปได้ง่ายๆ นี่คือบททดสอบที่สำคัญ ที่จะทำให้เราโตขึ้นไปอีกในเรื่องนี้
จงขอบคุณพระเจ้า ถ้ามีบางคนในชีวิตที่จะเผชิญหน้ากับคุณ พูดกับคุณตรงๆ ในบางเรื่องที่อาจจะทำให้คุณเจ็บปวด อาจจะมีทั้งเรื่องที่จริงและเรื่องที่เข้าใจผิด หากเรื่องใดเป็นเรื่องจริง นั่นคือโอกาสที่คุณจะได้ยอมรับ, ปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง โดยไม่ต้องไปเข้าคอร์สเรียนกับโค้ชแพงๆ ที่ไหน หากเรื่องไหนเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง นั่นคือโอกาสที่คุณจะได้พัฒนาตัวเองในการสื่อสารและการพัฒนาความสัมพันธ์ แบบที่ไม่ต้องไปเสียเงินเรียนที่ไหนเช่นกัน
โควิดจะจบลงเมื่อไหร่ และโลกยุคหลังโควิดจะเป็นอย่างไร ทุกคนล้วนมีความหวัง มีภาพที่อยากใด้เกิดขึ้นได้ แต่อย่าลืมว่าอนาคตทุกสิ่งอยู่ในพระหัตถ์และแผนการของพระเจ้า ให้นี่เป็นเวลาที่เราจะเข้าใกล้ชิดพระเจ้า และให้พระเจ้าเป็นผู้สอนและเปิดเผยให้กับเราว่าเราจะเตรียมตัว และจัดเรียงชีวิตอย่างไร สำหรับอนาคตที่จะมาถึงดังที่พระเจ้าได้ทรงเปิดเผยไว้ตามพระคำของพระองค์ ไม่ใช่แค่สิ่งที่เราอยากจะให้เกิดขึ้น เมื่อเราเดินตามการทรงนำของพระเจ้า เราสามารถมั่นใจได้แน่นอนว่า พระเจ้าจะสถิตกับเรา เพราะพระองค์บอกไว้แล้วว่า “เราจะอยู่กับท่านเสมอไป จนสิ้นยุค!”
#ChristLike #BecomingChristLike
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น