S – อ่านพระคัมภีร์ (Scripture) : ปฐมกาล 19:4-29
(4) ท่านทั้งสองยังไม่ทันเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้น คือชายชาวเมืองโสโดมทั้งหนุ่มและแก่ทั้งหมดจากทุกมุมเมืองพากันมาล้อมบ้านนั้นไว้ (5) พวกเขาร้องเรียกโลทว่า “พวกผู้ชายที่มาหาเจ้าคืนนี้อยู่ที่ไหน? จงส่งพวกเขาออกมาให้เรา เราจะได้มีเพศสัมพันธ์กับพวกเขา” (6) โลทก็ออกทางประตูไปหาชายเหล่านั้น แล้วปิดประตูข้างหลังเขา (7) กล่าวว่า “พี่น้องของข้าเอ๋ย ข้าขอเถอะ อย่าทำชั่วเลย (8) นี่แน่ะ ข้ามีลูกสาวสองคนยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับชายเลย ข้าจะส่งออกมาให้พวกท่าน พวกท่านจะทำแก่พวกนางอย่างไรก็ได้ตามใจชอบเถิด แต่ขออย่าทำอะไรพวกผู้ชายเหล่านี้เลย เพราะพวกเขามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าแล้ว” (9) แต่พวกนั้นร้องว่า “ถอยไป” และขู่ว่า “เจ้าคนนี้มาขออาศัยอยู่ แล้วยังมาตั้งตัวเป็นผู้พิพากษา เราจะทำชั่วต่อเจ้าให้หนักกว่าที่จะทำแก่คนเหล่านั้นอีก” พวกนั้นผลักโลทโดยแรง และเข้ามาใกล้เพื่อพังประตู (10) แต่ชายทั้งสองนั้นยื่นมือออกไปดึงตัวโลทเข้ามาในบ้านแล้วปิดประตูเสีย (11) ท่านทั้งสองทำให้พวกผู้ชายที่อยู่หน้าประตูบ้านนั้นตาบอด ทั้งคนหนุ่มและคนแก่ก็เที่ยวคลำหาประตูจนอ่อนใจ (12) แล้วท่านทั้งสองจึงพูดกับโลทว่า “ที่นี่ท่านมีใครอีกหรือ? บุตรเขย บุตรชาย บุตรหญิง คนของท่านทั้งหมดในเมืองนี้ จงนำออกไปจากที่นี่ (13) เพราะเรากำลังจะทำลายที่นี่แล้ว เพราะเสียงร้องกล่าวโทษพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ดังนักหนา และพระยาห์เวห์ทรงใช้เรามาทำลายเมืองนี้เสีย” (14) โลทจึงออกไปพูดกับบุตรเขยทั้งสอง ที่จะแต่งงานกับบุตรหญิงทั้งสองของเขาว่า “ลุกขึ้น ออกจากที่นี่เถอะ เพราะพระยาห์เวห์กำลังจะทำลายเมืองนี้” แต่บุตรเขยทั้งสองของเขากลับหาว่าโลทล้อเล่น (15) เมื่อเวลารุ่งเช้า ทูตสวรรค์ทั้งสองจึงเร่งโลทว่า “ลุกขึ้นพาภรรยาของท่าน และบุตรหญิงทั้งสองของท่านผู้อยู่ที่นี่ไปเสีย เกรงว่าพวกท่านจะถูกทำลายเพราะความชั่วของเมืองนี้” (16) แต่โลทยังรีรอ ดังนั้นท่านทั้งสองจึงคว้ามือเขาและภรรยา และบุตรหญิงทั้งสอง ด้วยพระเมตตาของพระยาห์เวห์ที่มีต่อเขา ท่านทั้งสองนำเขาออกมาอยู่ที่นอกเมือง (17) เมื่อท่านทั้งสองพาพวกเขาออกมานอกเมืองแล้ว ท่านพูดว่า “หนีเอาชีวิตรอดเถิด อย่าเหลียวหลังและอย่าหยุดที่ไหนในที่ลุ่มทั้งหมด หนีไปที่เนินเขา มิฉะนั้นท่านจะถูกทำลาย” (18) โลทพูดกับท่านทั้งสองว่า “อย่าเลยเจ้านายของข้าพเจ้า (19) ดูเถิด ผู้รับใช้ของท่านเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่านแล้ว และท่านได้สำแดงความกรุณาอันยิ่งใหญ่ในการช่วยชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สามารถหนีไปที่เนินเขา เกรงว่าภัยพิบัตินั้นจะตามทัน และข้าพเจ้าจะตายเสีย (20) ดูซิ เมืองโน้นอยู่ใกล้พอที่จะหนีไปถึงได้ และเป็นเมืองเล็ก ขอให้ข้าพเจ้าหนีไปที่นั่น เมืองนั้นเป็นเมืองเล็กๆ ไม่ใช่หรือ? แล้วชีวิตของข้าพเจ้าจะรอด” (21) ทูตสวรรค์พูดกับเขาว่า “นี่แน่ะ เราอนุญาตเรื่องนี้ด้วย คือเราจะไม่ทำลายเมืองที่ท่านพูดถึงนั้นเสีย (22) เร็วเข้า หนีไปที่นั่น เพราะเราจะทำอะไรไม่ได้จนกว่าท่านจะไปถึงที่นั่น” ฉะนั้นเขาจึงเรียกชื่อเมืองนั้นว่าโศอาร์ (23) เมื่อโลทมาถึงเมืองโศอาร์ ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว (24) แล้วพระยาห์เวห์ทรงให้กำมะถันและไฟจากพระยาห์เวห์ ตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ (25) และพระองค์ทรงทำลายล้างเมืองเหล่านั้น ที่ลุ่มทั้งหมด ชาวเมืองทั้งสิ้นและพืชที่งอกบนดิน (26) ส่วนภรรยาของโลท ผู้ซึ่งอยู่ข้างหลังโลท มองกลับไป นางจึงกลายเป็นเสาเกลือ (27) เวลาเช้ามืดอับราฮัมออกไปยังที่ที่ท่านยืนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ (28) ท่านมองลงไปทางเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และที่ดินแดนทั้งหมดในที่ลุ่ม ก็เห็นแผ่นดินลุกเป็นควันพลุ่งขึ้นเหมือนควันเตาเผา (29) ดังนั้น เมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองต่างๆ ในที่ลุ่ม พระเจ้าจึงทรงระลึกถึงอับราฮัม และทรงส่งโลทออกไปจากท่ามกลางการทำลายล้าง เมื่อพระองค์ทรงทำลายล้างเมืองทั้งสองที่โลทอาศัยอยู่
ข้อสังเกต
จากเรื่องนี้คุณเห็นความชั่วร้ายลักษณะใดบ้าง? และในท่ามกลางความชั่วร้ายนั้น คุณเห็นพระคุณของพระเจ้าอย่างไร?
O – การใคร่ครวญ (Observation)
ครั้งแรกที่โลทได้มองเห็นแผ่นดินซึ่งอยู่ตรงหน้าทางไปเมืองโสโดม สิ่งที่ปรากฏชัดเจนคือ แผ่นดินที่น่าหลงใหลและอุดมสมบูรณ์ (ปฐมกาล 13:10) โลทอาจคิดว่าเป็นเรื่องโง่มากหากพวกเขาไม่เข้าไปในดินแดนนั้น โลทจึงได้ตั้งเต็นท์ใกล้เมืองโสโดม (ปฐมกาล 13:12-13) ต่อมาเมื่อโลทเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองโสโดม เขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
สังเกตที่พระคัมภีร์บอกว่า “โลทกำลังนั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม” (ปฐมกาล 19:1) ซึ่งหมายความว่า การนั่งอยู่ที่ประตูเมืองแสดงถึงการได้รับเกียรติในชุมชนนั้น
เป็นไปได้ว่ามนุษย์มักคิดเหมือนๆ กันเวลาถูกความต้องการเนื้อหนังล่อลวง เรามักมีความคิดที่จะประนีประนอม ด้วยคำพูดที่ว่า “ฉันสามารถรับมือกับมันได้” จากที่โลทเริ่มย้ายไปอยู่ใกล้เมืองโสโดม ก็ขยับเข้าไปในเมืองโสโดม และกลายเป็นส่วนสำคัญในเมืองโสโดม โลทปรับตัวให้คุ้นชินกับวิถีแห่งความชั่วร้าย เขาอาจบอกกับตัวเองว่า “ฉันสามารถรับมือกับมันได้” เมื่อบาปได้เข้ามาล่อลวง การประนีประนอมจะบิดเบือน “สัจธรรมของพระเจ้า” ให้กลายเป็นเพียง “นามธรรมในความคิด” เราจะบิดเบือนเข็มทิศแห่งศีลธรรมที่พระเจ้าใส่ไว้เพื่อบ่งบอกตัวตนเรา จนกลายเป็นเพียง “ศีลธรรมของพระเจ้าที่สมบูรณ์แบบแต่ไม่สมจริง” (Unrealistic Ideal by God) จนในที่สุดก็ลดระดับลงเหลือเพียงแค่ “ความคิดเห็นจากพระเจ้าที่จะทำหรือไม่ทำตามก็ได้” (Optional Idea from God)
เริ่มต้นจาก การดึงดูด (attraction) สู่การเปิดรับ (acceptance) สู่การเป็นส่วนหนึ่ง (adoption) และนำไปสู่การเสพติด (addiction) นี่คือวิธีที่บาปค่อยๆ หันจิตใจเราออกจากพระเจ้าทีละนิด แม้เมืองโสโดมกำลังถูกทำลายในไม่ช้า “แต่โลทยังรีรอ” (ปฐมกาล 19:16) ลังเลใจที่จะออกจากเมือง ส่วนภรรยาเขาหันหลังกลับไปมองและกลายเป็นเสาเกลือ ความขัดแย้งในใจเขาแสดงให้เห็นว่า โลทไม่สามารถรับมือกับมันได้ อันที่จริงก็ไม่มีใครที่สามารถรับมือกับความบาปได้
แม้พระเจ้าจะทำลายอาคารบ้านเมืองของโสโดมอย่างสิ้นซาก แต่บางคนอาจสงสัยว่าโลทและบุตรีได้ทำลายโสโดมในใจของพวกเขาออกไปหรือไม่ ทุกวันนี้ “โสโดม” ของเราอยู่ที่ไหน? คำตอบคือ มันอยู่ในพื้นที่ชีวิตส่วนตัวของเรา ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน มีเพียงเราเท่านั้นที่รู้ และในขณะที่เราพักพิงอยู่กับ “โสโดม” ของเรา ตัว “โสโดม” ก็เข้าครอบครองพื้นที่ในใจเราเช่นกัน เราหลอกลวงพระเจ้าไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถมีอิทธิพลต่อโลกนี้เพื่อพระคริสต์ได้ หากข้างในเรายังรับอิทธิพลจากโลกที่ต่อต้านพระคริสต์ แม้แค่คิดถึงมันก็ตาม
“เพราะพระยาห์เวห์ทรงเฝ้ารักษาทางของคนชอบธรรมแต่ทางของคนอธรรมจะพินาศไป” (สดุดี 1:6) ขอให้มรดกชีวิตที่เรามอบให้คนรุ่นหลัง กลายเป็นคำพยานถึงความชอบธรรมของพระเจ้า
A – การประยุกต์ใช้ (Application)
เรากำลังโหยหา “โสโดม” ในจิตใจของเราอยู่ไหม? มันจำเป็นที่ “โสโดม” จะต้องถูกทำลายลงให้สิ้นซากโดยพระเจ้า หรือว่าเรากำลังมองหาทางต่อรองกับความบาปอยู่? วันนี้จงเข้ามาและยอมมอบถวายโสโดมที่อยู่ในจิตใจคุณทั้งหมดให้แก่พระคริสต์ เพื่อพระองค์จะสามารถทำลายมันลงอย่างราบคาบ และฟื้นฟูจิตใจเราไม่ให้เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป
จงทูลต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้สำรวจจิตใจคุณ ยอมให้พระองค์เปิดเผยด้านมืดที่คุณยอมให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จงสารภาพบาปนั้นและกลับใจต่อพระเจ้า และตัดสินใจไม่เดินตาม “วิถีของโลท”
วิถีชีวิตในความบาปของโลทได้ส่งผลให้ภรรยาและลูกๆ แล้วคุณเองล่ะเป็นแบบเดียวกับโลทไหม? ที่คนในครอบครัวคุณได้เห็นพฤติกรรมคุณอันไม่น่าพึงพอใจ จงอธิษฐานและใคร่ครวญเพื่อถอดถอนนิสัยไม่ดีเหล่านั้นออกไป และแทนที่ด้วยสิ่งที่เสริมสร้างเพื่อส่งอิทธิพลดีต่อผู้อื่น
P – คำอธิษฐาน (Prayer)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์รู้จักและเชื่อฟังพระองค์ โปรดเปลี่ยนแปลงข้าพระองค์ให้เป็นคนในแบบที่พระองค์ทรงอยากให้ข้าพระองค์เป็น อาเมน!
บทความ: ChristLike Team
ภาพ: Adonyi Gábor from Pexels
ออกแบบ: NanTharinee
อ้างอิง: BTW Camp 2016 – Devotional
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น