บทความ

พลังคำขอโทษ

คุณอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในที่ทำงานไหม?
อยากเห็นความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิตคู่ด้วยไหม?
มีหลักคิดบางอย่างที่ผมอยากแบ่งปัน และคุณสามารถทำตามได้แน่นอน

ในโบสถ์ของผมนั้น พวกเรามักพูดว่า “คนสมบูรณ์แบบห้ามเข้ามา” เพราะเราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าไม่มีใครเลยเป็นคนสมบูรณ์แบบ (ยกเว้นพระคริสต์)

แล้วทำไมพวกเราถึงชอบทำตัวราวกับว่าเป็นพวกสมบูรณ์แบบ? ทำไมจึงยากที่จะยอมรับว่าพวกเราเองก็ผิดพลาดได้?

ขอเดาว่ามันเป็นเพราะความหยิ่ง คนส่วนใหญ่ติดกับดักความหยิ่งนี้ในบางช่วงเวลาของชีวิต บางครั้งเราก็แค่ไม่อยากให้คู่ครองรู้สึกพอใจที่ตัวเขาเป็นฝ่ายถูกและเราเป็นฝ่ายผิด นี่ล่ะคือความหยิ่ง

บางครั้งในที่ทำงาน เราแสร้งทำว่าสามารถจัดการทุกอย่างได้ เราไม่เคยตัดสินใจผิดพลาดเลยสักเรื่อง นั่นก็เพราะพระเจ้าช่วยเหลือเราไงล่ะ! ศิษยาภิบาลหลายท่านทำในสิ่งที่แย่กว่านี้อีก พวกเขาใช้อำนาจบีบคั้นทีมงานและกลุ่มอาสาสมัคร ทำตัวราวกับว่าพวกเขาเองไร้ข้อด่างพร้อยใดๆ

ความจริงแล้วคุณเองไม่สามารถหลอกใครได้ ตัวคุณเองที่มักทำให้คนอื่นหัวเสียและทำลายสัมพันธภาพกับผู้คน

เมื่อตัวคุณเองไม่ยอมรับความผิดพลาด ทั้งอารมณ์ฉุนเฉียว ส่งอีเมล์แย่ๆ วิพากษ์วิจารณ์ และอื่นๆ คุณบั่นทอนความสัมพันธ์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนยากจะกลับคืนเป็นเหมือนเดิมได้

คุณไม่ใช่ซุปเปอร์แมน ซุปเปอร์วูแมน ที่คนอื่นทำอะไรคุณไม่ได้ คุณไม่ใช่พวกสมบูรณ์แบบ คุณผิดพลาด คุณคือคนบาปที่รับการไถ่โดยพระคุณพระเจ้า จงอย่าลืมสิ่งนี้!

คุณต้องการพระคุณและพระเมตตา ลูกจ้างคุณ นายจ้างคุณ และคู่สมรสคุณ ทุกคนต่างต้องการพระคุณพระเมตตาจากพระเจ้าด้วยกันทั้งนั้น คุณว่าจริงไหมล่ะ? สำหรับผมแล้วมันใช่ที่สุด

7 คำพูดเพื่อกล่าวขอโทษ

นี่คือข้อแนะนำง่ายๆ ที่ผมอยากช่วยให้คุณรื้อฟื้นความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ชนะใจเพื่อนๆ และได้รับการยอมรับในที่ทำงาน มี 7 คำพูดจะช่วยคุณได้

1) & 2) “ฉันเสียใจ” และ “ฉันขอโทษ” (I’m sorry and I apologize)

ใช้ความรู้สึกที่จริงใจด้วยน้ำเสียงที่เป็นตัวคุณเองมากที่สุด สำหรับผมจะใช้ว่า “ผมขอโทษ” ซึ่งวันนี้ผมเองเพิ่งพูดคำนี้กับบางคน และมันช่วยรักษาความสัมพันธ์ของเราไว้

3. “ฉันผิดเอง” (My bad)

เมื่อคุณเผลอพูดอะไรออกไปโดยไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วน และอาจเพิ่งคิดได้หลังจากที่พูดออกไปแล้ว คุณก็จะพูดมั่วๆ ออกไปว่า “ฉันผิดเองล่ะ” ยอมรับตามนั้นเสียเองเลย

ข้อสังเกตคือ : “ฉันผิดเอง” เป็นคำที่ใช้กันทั่วไปแบบไม่เป็นทางการ และเจืออารมณ์ฉุนเฉียวนิดๆ อย่าเข้าใจผิดและพยายามพูดแต่คำว่า “ฉันผิดเอง” ซึ่งที่จริงไม่ได้น่าฟังสักเท่าไหร่ มันเป็นประโยคที่ควรใช้แค่บางโอกาส

อีกข้อสังเกตหนึ่งคือ ประโยคนี้มักถูกใช้ผิดๆ ราวกับเป็นคำทั่วไป เราพูดประโยคนี้เพียงแค่ไม่อยากให้บางคนรู้สึกไม่พอใจ เราจึงพยายามพูดว่า “ฉันผิดเอง” ระวังให้ดีก่อนจะพูด!

4. “ฉันพลาดไปแล้ว” (I messed up)

เวลาที่คุณทำพลาดและเมื่อนึกขึ้นได้ จงรีบพูดขึ้นทันทีว่า “ฉันทำพลาดไปแล้ว” เพราะเมื่อคุณแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดนั้นด้วยตัวเอง คุณได้ถอนพิษออกจากลูกดอกของคนร้ายแล้ว

5. “ฉันทำพัง” (I blew it)

เวลาคุณทำเรื่องผิดพลาดจนอาจทำให้เจอกับปัญหาใหญ่ สิ่งเลวร้ายที่คุณมักทำบ่อยที่สุดคือ ปฏิเสธเรื่องนั้น ซึ่งอาจทำให้คุณถูกไล่ออก หรือนำไปสู่การหย่าร้าง เมื่อคุณทำพัง ก็แค่พูดออกมาว่า “ฉันทำมันพัง” และเมื่อกล่าวคำขอโทษที่มาจากใจจริง การสำนึกผิดนั้นช่างงดงาม มันยากที่จะยังคงโมโหบางคนที่สำนึกผิดด้วยใจจริงและขอรับการอภัย

6. “ฉันเป็นฝ่ายผิดเอง” (I was wrong)

โปรดจำไว้ว่าคุณไม่มีทางถูกต้อง 100% ได้  ถึงแม้คุณไม่ได้ผิดทั้งหมด แต่ก็ควรพูดว่า ฉันก็มีส่วนผิด แลเพื่อให้เหตุการณ์มันดีขึ้นอีก คุณอาจพูดต่อว่า “คุณก็มีส่วนถูก” ผมไม่ได้หมายถึงการพูดปั่นหัวใคร แต่กำลังพูดด้วยความเป็นตัวคุณจริง เป็นของแท้ นี่เป็นเรื่องของคุณลักษณะ

7. “โปรดยกโทษให้ฉัน” (Please forgive me)

สุดท้ายขอการยกโทษที่เหมาะสม หากคุณทำกาแฟหกใส่รองเท้าบางคน คุณคงไม่ต้องถึงกับขอให้เขายกโทษให้คุณ แต่ก็ไม่ควรทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วพูดว่า “นี่คุณ เดินระวังบ้างสิ” หรือ “นั่นมันความผิดคุณนะ”

เมื่อคุณทำร้ายจิตใจใครบางคน และพวกเขาเองก็รู้สึกแย่มาก เป็นเรื่องเหมาะสมที่สุดที่จะขอให้พวกเขาอภัยให้คุณ แน่นอนคุณต้องไม่ทำตัวกวนประสาท ถ้าพวกเขายังไม่ให้อภัย คุณต้องปล่อยมันไป เพราะคุณทำส่วนของคุณจบแล้ว แต่หากพวกเขาให้อภัยคุณ ขอให้คุณรับด้วยใจชื่นชมยินดีและสานความสัมพันธ์ของพวกคุณต่อไป

คำแนะนำสุดท้าย (ซึ่งผมขอบอกกับตัวเองด้วย) คืออย่าปล่อยให้คำพูดเหล่านี้ไปไกลกว่าชีวิตคุณ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการมีลักษณะชีวิตที่ซื่อตรง ไม่ว่าคุณจะอายุมากแค่ไหน ผมก็ยังอยากแบ่งปันหัวข้อนี้ให้คุณฟังอยู่ดี เพราะนิสัยเหล่านี้จะติดตัวไปตลอดชีวิต  ขอพระเจ้าอวยพรให้คุณเติบโตขึ้นในพระคุณของพระเจ้า

ถ้าเป็นได้ เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน – โรม 12:18

 

บทความ:  The Power of Apology, Greg Atkinson
แปล:  Ale

ออกแบบภาพ:  rainniedesign

 

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง