บทความ

ความฉับไวของพระวิญญาณในชีวิตคริสเตียน

ยุคพระคัมภีร์ใหม่มีความแตกต่างจากยุคพระคัมภีร์เดิมในเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญมาก คือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทับอยู่ในผู้เชื่อทุกคน ทรงทำงานร่วมกับเราอย่างฉับไว ไม่เหมือนยุคเดิมที่ต้องรออย่างน้อยก็เสียงของผู้เผยพระวจนะที่จะเกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัย

แต่ปัจจุบันเมื่อเราเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณทรงเข้ามาประทับในเราและเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า

เพราะว่าพระวิญญาณที่พระเจ้าประทานมานั้นจะไม่ทรงให้ท่านเป็นทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่พระวิญญาณจะทรงให้ท่านมีฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า โดยพระวิญญาณนั้นเราจึงร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา (พ่อ)” พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า – โรม 8:15–16

หลังจากพระเยซูคริสต์เสด็จขึ้นสู่สวรค์ ในวันเพ็นเทคอสต์
พระเจ้าทรงประทานพระวิญญาณฯ เข้ามาในชีวิตสาวกเป็นกลุ่มแรก

ลักษณะความฉับไวของพระวิญญาณในชีวิตคริสเตียน

1. ระยะห่างระหว่างเรากับพระเจ้าได้หมดไป

พระเยซูทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมายังเรา ความห่างเหินระหว่างเรากับพระเจ้าได้หมดไปกลับกลายเป็นความใกล้ชิดซึ่งมาโดยพระคุณและความสำเร็จในการไถ่บาปของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน

นี่แน่ะ เราจะส่งสิ่งที่พระบิดาของเราทรงสัญญานั้นลงมาเหนือท่าน แต่ท่านทั้งหลายจงคอยอยู่ในกรุง จนกว่าท่านจะสวมด้วยฤทธิ์เดชที่มาจากเบื้องบน – ลูกา 24:49 

คือพระวิญญาณแห่งความจริงซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ พวกท่านรู้จักพระองค์เพราะพระองค์สถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ท่ามกลางท่าน – ยอห์น 14:17 

2. เราสามารถมีประสบการณ์ในฤทธิ์เดชได้ตลอดเวลา

คริสเตียนสามารถมีประสบการณ์การบัพติศมาในพระวิญญาณ การพูดภาษาแปลกๆ การเผยพระวจนะ การรักษาโรค ซึ่งเป็นมาโดยพระเจ้าผู้ประทับอยู่ในเรา

ในมุมหนึ่งเราคาดหวังประสบการณ์เหล่านี้ได้ และอีกมุมหนึ่งเรายังคงต้องตระหนักว่าประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณเหล่านั้นเป็นมาโดยพระคุณ ไม่ได้ด้วยการบังคับพระเจ้าให้ทำตามคำสั่งของเรา เราใช้ความเชื่ออย่างเต็มที่ขณะเดียวกันก็มอบความไว้วางใจและเอกสิทธิ์ในการอัศจรรย์ของพระองค์ไว้ที่พระเจ้า

เปโตรกับยอห์นจึงวางมือบนพวกเขา แล้วพวกเขาได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ – กิจการของอัครทูต 8:17 

เมื่อเปาโลวางมือบนตัวพวกเขาแล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาสถิตกับพวกเขา พวกเขาจึงพูดภาษาแปลกๆ และเผยพระวจนะ – กิจการของอัครทูต 19:6 

3. พระวิญญาณจะตรัสและนำเราอย่างชัดเจน

พระเจ้าทรงนำให้บารนาบัสและเซาโลออกเดินทางพันธกิจ งานของพระเจ้าจะมีเวลาที่เหมาะสมเสมอ อย่าให้เราเร่งรีบหรือเชื่องช้าจนเกินไป

ระหว่างที่เขาทั้งหลายกำลังนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและถืออดอาหารอยู่นั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสสั่งว่า “จงตั้งบารนาบัสกับเซาโลไว้สำหรับงานที่เราเรียกให้พวกเขาทำนั้น” หลังจากถืออดอาหารและอธิษฐานแล้ว เขาทั้งหลายวางมือบนตัวบารนาบัสกับเซาโล แล้วส่งท่านทั้งสองไป เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้ เพราะฉะนั้นท่านทั้งสองจึงลงไปที่เมืองเซลูเคีย และโดยสารเรือจากที่นั่นไปยังเกาะไซปรัส – กิจการของอัครทูต 13:2–4 

พระวิญญาณอาจจะสั่งห้ามเราก็ได้ เพื่อให้เป็นไปตามน้ำพระทัยเจาะจงบางอย่างของพระเจ้า เราจึงต้องระมัดระวังฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าให้ดี

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงไม่ให้กล่าวพระวจนะของพระเจ้าในแคว้นเอเชีย พวกท่านจึงไปทั่วแว่นแคว้นฟรีเจียกับกาลาเทีย เมื่อมาถึงเขตแดนแคว้นมิเซียแล้ว ก็พยายามจะเข้าไปยังแว่นแคว้นบิธีเนีย แต่พระวิญญาณของพระเยซูไม่โปรดให้ไป – กิจการของอัครทูต 16:6–7

4. การใช้ของประทานในคริสตจักรเป็นการสนับสนุนที่ฉับไวของพระวิญญาณด้วย

และคนหนึ่งในพวกเขาที่ชื่ออากาบัส ลุกขึ้นกล่าวโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่า จะเกิดการกันดารอาหารครั้งยิ่งใหญ่ทั่วแผ่นดินโลก เรื่องนี้เกิดขึ้นในรัชสมัยจักรพรรดิคลาวดิอัส – กิจการฯ 11:28

บรรยากาศการวางมืออธิษฐานในค่ายสัมมนาพระคัมภีร์ปี 2018

อย่างไรก็ตาม ความฉับไวของพระวิญญาณหลายครั้งเป็นระดับความรู้สึกที่บางเหตุการณ์ก็คิดไปเอง ขาดรากฐานทางพระวจนะโดยเฉพาะอย่างในสังคมคริสเตียนยุคหลังทันสมัย (Post-modern) ที่เน้นอารมณ์ความรู้สึกมากจนเกินไป ทำให้เกิดการตีความประสบการณ์ต่างๆ โดยขาดการแยกแยะระหว่างการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์และการงานของเนื้อหนัง แต่กลับเน้นระดับอารมณ์มากกว่าระดับการเปลี่ยนแปลงชีวิตโดยการทรงนำของพระวิญญาณ

สิ่งที่น่าใคร่ครวญเพื่อนำมาซึ่งการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราคือ ความฉับไวของพระวิญญาณยังคงเกิดขึ้นจริงในชีวิตของเราหรือในการรับใช้ในหรือไม่ ให้เราเชื่อร่วมกันว่าพระวิญญาณฯ ผู้อยู่ในเรายังคงทำการอย่างหนักแน่นรวดเร็ว ให้เราฟังเสียงและตอบสนองพระองค์เสมอ

 

บทความ:  กนก ลีฬหเกรียงไกร
ภาพ:  arman khadangan on Unsplash
ออกแบบ:  Nan Tharinee

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง