บทความ

จริงหรือที่ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทำไม่ได้!

“ปราศจากความเชื่อศรัทธา ก็ไม่มีอะไรเป็นไปได้
แต่ด้วยศรัทธา ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้!”
(Without faith, nothing is possible.
With it, nothing is impossible)
– Mary McLeod Bethune –

เป็นเรื่องไม่ยากที่จะพูดว่า ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้
แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะเชื่อเช่นนั้นจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับคนเจ้าหลักการที่คิดว่าตนเป็นคนฉลาด มีเหตุผล ละเอียด และรอบคอบที่ถือคติว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน” (Safety First)

คุณเป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้ ด้วยหรือไม่?

ผมไม่โทษ ไม่ตำหนิ เอลีซาเบธ หรือ มารีย์ ตอนที่เธออยู่ในสภาวะที่ได้ยิน หรือได้รับรู้ หรือมีประสบการณ์กับสิ่งที่เกินความรู้ ความเข้าใจ หรือความคิด ที่ผิดกับวิถีปกติธรรมดาของชีวิตพวกเธอ ถ้าผมเป็นพวกเขา ก็อาจไม่ได้ดีกว่าพวกเขาเลย

หากเราเป็นคนที่เลือกเส้นทางต้องชัวร์ก่อนทำในทุกกรณี เราก็อาจไม่มีความเสี่ยงใดๆ ให้กังวลมาก
หรือเราอาจเข็ดเขี้ยวกับอดีตอันเจ็บปวดบางอย่าง จนเรากลัวที่จะก้าวต่อไป
เราก็จะอยู่แต่ใน Comfort Zone ของเราตลอดไปจนวันตาย และชีวิตก็จะไม่ได้สร้างสรรค์สิ่งใดที่มีคุณค่าโดดเด่นกว่าผู้ใดออกมา (แม้ว่า เราจะมีศักยภาพมากสักเพียงใดก็ตาม)

ผมไม่เข้าใจ พระทัยของพระเจ้าในทุกเรื่องทุกกรณี
ผมไม่อาจวิจารณ์ในสิ่งที่พระองค์กระทำต่อคนทั้งหลาย อย่างเช่น

  • เศคาริยาห์ ปุโรหิต ผู้เข้าเวรประจำการในการเข้าเฝ้าพระเจ้า ที่พระองค์ทำให้เขาเป็นใบ้ไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
  • เอลีซาเบธภรรยาของท่าน ที่พระเจ้าทรงให้ตั้งครรภ์ ทั้งๆ ที่เธออายุมาก และเป็นหมัน
  • และแม้แต่ มารีย์ เด็กสาวที่ยังไม่ได้อยู่กินกับคู่หมั้นหนุ่มอย่างโยเซฟ ที่พระองค์ให้เธอตั้งครรภ์แบบเสี่ยงตาย

แต่สุดท้าย ความเชื่อของบุคคลเหล่านี้ ได้ก่อเกิดปฐมบทแห่งเรื่องราววันคริสต์มาสอันแสนอัศจรรย์ที่น่าจดจำและส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโลกนี้

“เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้ !”

คุณเชื่อเช่นนี้จริงๆ หรือไม่?
คำพูดและการกระทำต่างๆ ในชีวิตของคุณ แสดงความจริงแห่งความเชื่อเช่นนี้ หรือไม่?
คนอื่นๆ รอบตัวคุณ มองเห็นความเชื่อเช่นนี้ในตัวคุณ ครอบครัวและคริสตจักรของคุณอย่างชัดเจนหรือไม่?

จอห์น ไพเพอร์ (John Piper) กล่าวหนุนใจในเรื่องนี้ว่า

“ความมืดมิดมาถึงในกึ่งกลางเส้นทางของเรา อนาคตดูเหมือนว่างเปล่า การทดลองให้ถอดใจใหญ่หลวงนัก แต่อย่าทำเช่นนั้น คุณกำลังไปกันได้ดีแล้ว คุณอาจถกเถียงกับตัวเองว่า ไม่มีทางที่จะไปต่อเลยนะ แต่กับพระเจ้า ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ พระเจ้าทรงมีเชือก มีบันได และมีอุโมงค์ ที่จะช่วยคุณให้ออกจากหล่มที่คุณติดอยู่มากมายเกินกว่าที่คุณจะรับรู้ได้ จงรอคอย จงอธิษฐานอยู่เสมออย่าหยุด และมีความหวังต่อไป!”
(Darkness comes. In the middle of it, the future looks blank. The temptation to quit is huge. Don’t. You are in good company… You will argue with yourself that there is no way forward. But with God, nothing is impossible. He has more ropes and ladders and tunnels out of pits than you can conceive. Wait. Pray without ceasing. Hope.)

แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่า เราจะสั่งหรือบังคับพระเจ้าให้ทำทุกอย่างตามใจของเราได้ในทุกเรื่องที่เกิดจากอัตตา หรือความเพ้อฝันของตัวเรา โดยอ้างประโยคดังกล่าวไม่ได้ เหมือนดังที่ Brenda Fassie กล่าวล้อเลียนว่า

“ฉันจะเป็นสันตะปาปาปีหน้า ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้!”
(I’m going to become the Pope next year. Nothing is impossible)

ดังนั้น อย่าเอาพระคัมภีร์ ไปอ้างเล่นตามใจชอบ!

มีหลายสิ่งแน่ที่พระเจ้าจะไม่ทำ ตามใจของเรา
แต่ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทรงบัญชาให้เราทำแล้ว เราจะทำไม่ได้
เพราะพระเจ้าจะทรงทำให้ทุกอย่างสำเร็จผ่านเรา
ในวิถี ในเวลา และ ในสถานที่ ตามที่พระองค์ทรงกำหนด

เหมือนในวันคริสต์มาสแรก เมื่อ 2000 ปีที่แล้ว!

วันนี้ หากคุณกำลังเผชิญกับอุปสรรค ปัญหาใหญ่และยากที่ท้าทาย
จงใคร่ครวญดูว่า พระเจ้าทรงนำเรามาถึงจุดนี้หรือไม่?
ถ้า “ไม่” จงถอยกลับไปเสีย
แต่ถ้า “ใช่” จงเดินหน้าต่อไป ด้วยความมั่นใจว่า

“ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้ !”

อาเมนไหมครับ?

“ดูซิ ถึงนางเอลีซาเบธญาติของเธอชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์มีบุตรเป็นชายด้วย บัดนี้นางนั้นที่คนเขาถือว่าเป็นหญิงหมัน ก็มีครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้ ” ส่วนมารีย์จึงทูลว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นไปตามคำของท่าน” แล้วทูตสวรรค์นั้นจึงจากเธอไป” – ลูกา 1:36-38 – (TH1971)

 

บทความ:  อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
ภาพ:  Jose Murillo
ออกแบบ:  Panchanok

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง