𝐈. คำจำกัดความ 𝐃𝐞𝐟𝐢𝐧𝐢𝐭𝐢𝐨𝐧
ในภาษาไทยคำว่า ตรีเอกานุภาพ มาจากคำว่า ตรี (แปลว่า สาม)+ เอกา (แปลว่า หนึ่ง) + อานุภาพ (แปลว่า ความยิ่งใหญ่) ซึ่งน่าจะสอดคล้องกับภาษาอังกฤษคำว่า Trinity ที่มาจากคำว่า Tri + Unity และแน่นอนว่าคำ ๆ นี้ไม่ปรากฎสักครั้งในพระคัมภีร์ไบเบิล (เพื่อน ๆ ในความเชื่อหนึ่งชอบถามแบบนี้ อิอิ) เพราะว่าเป็นคำที่มนุษย์ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ สอดรับกับลักษณะของพระเจ้าที่ปรากฎในพระคัมภีร์ไบเบิล ที่มีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ประการดังนี้
- พระเจ้ามีหนึ่งเดียว – There is Only One God
- พระเจ้ามีสามบุคคล – There are Three Divine Persons
- ทั้งสามมีความเท่าเทียมกัน – They are Coequal
𝐈𝐈. คำอธิบาย 𝐄𝐱𝐩𝐥𝐚𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧
𝟐.𝟏 พระเจ้ามีหนึ่งเดียว – 𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞 𝐢𝐬 𝐎𝐧𝐥𝐲 𝐎𝐧𝐞 𝐆𝐨𝐝
โดยทั่วไป เวลาที่ผมพูดคุยเรื่องพระเจ้ากับผู้สนใจทั่วไป ผมมักจะหลีกเลี่ยงคำว่า “พระเจ้า” เพราะว่า คำนี้ถูกเข้าใจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับพื้นฐานความเชื่อของแต่ละท่าน แต่สำหรับกลุ่มที่เชื่อพระเจ้าหนึ่งเดียว (Monotheism) ลักษณะของพระเจ้า (Nature of God) จะมีลักษณะที่สำคัญดังนี้ (1) Transcend space (2) Immaterial (3) Transcend Time (4) Unimagine power (5) Uncaused และ (6) Personhood ดังนั้นคำว่า “พระเจ้ามีหนึ่งเดียว” จึงหมายถึง Being ที่มีลักษณะข้างต้นมีอยู่เพียงหนึ่งเดียว
*** อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Kalam Cosmological Argument ตอนที่ 5
𝟐.𝟐 พระเจ้ามีสามบุคคล – 𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞 𝐚𝐫𝐞 𝐓𝐡𝐫𝐞𝐞 𝐃𝐢𝐯𝐢𝐧𝐞 𝐏𝐞𝐫𝐬𝐨𝐧𝐬
คริสเตียนเชื่อว่า “There are Three Divine Persons in One Being” ซึ่ง เป็นส่วนที่ถูกเข้าใจผิดและถูกตั้งคำถามบ่อยจากคนต่างความเชื่อ เพราะ นึกว่าคริสเตียน หมายถึง There are Three Divine Persons in One Person หรือ There are Three Divine Beings in One Being ซึ่งแน่นอนว่า 2 ประโยคหลังเป็นประโยคที่เป็นเท็จ เพราะว่า ขัดแย้งในตัวเอง (Self-contradiction) ดังนั้นเมื่อคริสเตียนพูดถึงตรีเอกานุภาพ พวกเรากำลังหมายถึง one what and three who พวกเราไม่ได้หมายถึง three what หรือ one who
เหตุผลประการสำคัญที่สร้างความสับสนให้กับคนทั่วไป (ซึ่งผมได้กล่าวเอาไว้แล้วในตอนที่ 1) คือ “ความจำกัดทางภาษา” กับ “ความเป็นหนึ่งเดียวของพระเจ้า” กล่าวคือ ทุกครั้งที่เราใช้คำว่า “บุคคล (person)” เรามักจะนึกถึง บุคคลของมนุษย์ที่มีความจำกัด ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถใช้ทนแทนกับสิ่งที่พระเจ้าที่มีเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลได้ แต่ก็เป็นคำที่ดีที่สุดที่บ่งบอกว่า พระเจ้ามีความสามารถในการเลือก, มีความรู้สึก นั่นเอง
𝟐.𝟑 ทั้งสามบุคคลมีความเท่าเทียมกัน – 𝐓𝐡𝐞𝐲 𝐚𝐫𝐞 𝐂𝐨𝐞𝐪𝐮𝐚𝐥
คำว่า “เท่าเทียมกัน” หมายความว่า Three Persons มีความเท่าเทียมกันใน Being ทั้ง 6 ประการตามหัวข้อที่ 2.1 โดยความเข้าใจผิดพื้นฐานที่ถูกพบได้บ่อย ก็คือ พระบิดายิ่งใหญ่กว่าพระบุตร ซึ่งผมจะนำเสนอวิธีการปกป้องในตอนหลัง ๆ นะครับ
𝐈𝐈𝐈. ความเชื่อใกล้เคียง 𝐍𝐨𝐧𝐭𝐫𝐢𝐧𝐢𝐭𝐚𝐫𝐢𝐚𝐧
ในหัวข้อนี้ผมไม่ได้พูดถึงความเชื่อของศาสนาอื่น เช่น อิสลาม, ยิว ,พุทธ หรือ เอทิส แต่ผมอยากจะพูดถึงความเชื่อที่ใกล้เคียง ที่ผมใช้คำว่า “ใกล้เคียง” เพราะต้องการจะสื่อว่า ความเชื่อกลุ่มนี้ยังคงใช้พระคัมภีร์เป็นบรรทัดฐาน แต่มีความเข้าใจลักษณะของพระเจ้าแตกต่างไปจากคริสเตียนกระแสหลัก กล่าวคือ คนกลุ่มนี้ไม่ได้เชื่อทั้ง 3 องค์ประกอบข้างต้น แต่จะปฏิเสธข้อใดข้อหนึ่งนั่นเอง
𝟑.𝟏 ปฏิเสธความเป็นหนึ่งเดียว 𝐑𝐞𝐣𝐞𝐜𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐎𝐧𝐞 𝐁𝐞𝐢𝐧𝐠
𝐓𝐫𝐢𝐭𝐡𝐞𝐢𝐬𝐦 เชื่อว่าพระบิดา, พระบุตร และ พระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็น Three Beings และ Three Persons ที่มีอิสระต่อกัน หากมองดูประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็จะพบว่ามีบางคนที่เชื่อแบบนี้ แต่ภายหลังก็จะถูกทางศาสนจักรตักเตือน หรือ ถูกจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มสอนผิด (condemned as heresy)
𝐂𝐡𝐮𝐫𝐜𝐡 𝐨𝐟 𝐉𝐞𝐬𝐮𝐬 𝐂𝐡𝐫𝐢𝐬𝐭 𝐨𝐟 𝐋𝐚𝐭𝐭𝐞𝐫-𝐝𝐚𝐲 𝐒𝐚𝐢𝐧𝐭𝐬 (𝐋𝐃𝐒) หรือเคยเป็นที่รู้จักกันในนาม Mormonism ไม่ได้เรียกตัวเองว่าเป็น Tritheism หรือ Polytheism แต่พวกเขาเชื่อว่า พระบิดา, พระบุตร และ พระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็น Three Beings และ Three Persons ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันเรียกว่า Godhead มีความเป็นเอกภาพในเป้าหมายและการตัดสินใจ
𝟑.𝟐 ปฏิเสธความเป็นสามบุคคล 𝐑𝐞𝐣𝐞𝐜𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐓𝐡𝐫𝐞𝐞 𝐏𝐞𝐫𝐬𝐨𝐧𝐬
𝐌𝐨𝐝𝐚𝐥𝐢𝐬𝐦 เชื่อว่า พระบิดา, พระบุตร และ พระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็น One Being และ Three Forms กล่าวคือ พระบิดา คือ พระเจ้าในพระคัมภีร์เดิม และเปลี่ยนรูปแบบ (incarnation) มาเป็นมนุษย์ในสมัยพระเยซู และสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบสุดท้ายในลักษณะวิญญาณ โดยมองว่า The Father – Creation, The Son – Redemption และ The Holy Spirit – The Regeneration เช่น Oneness Pentecostalism
กลุ่มฟ้าแลบตะวันออก (𝐄𝐚𝐬𝐭𝐞𝐫𝐧 𝐋𝐢𝐠𝐡𝐭𝐧𝐢𝐧𝐠) เชื่อว่า พระเจ้าสำแดงเป็น 3 ยุค คือ (1) พระเยโฮวาห์ (Jehovah) เป็นพระเจ้าในยุคธรรมบัญญัติ (Age of the Law), (2) พระเยซู (Jesus) เป็นพระเจ้าในยุคพระคุณ (Age of the Grace) และ (3) พระเจ้าผู้ทรงมหิทฤทธิ์ (Almighty God) เป็นพระเจ้าในยุคอาณาจักร (Age of the Kingdom)และยิ่งใหญ่กว่า 2 ยุคที่ผ่านมา
𝟑.𝟑 ปฏิเสธความเท่าเทียมกัน 𝐑𝐞𝐣𝐞𝐜𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐄𝐪𝐮𝐚𝐥𝐢𝐭𝐲
กลุ่มที่ปฏิเสธตรีเอกานุภาพ (nontrinitarian) จะมารวมกันตรงนี้เยอะมาก ซึ่งแนวคิดหลัก ๆ คือ พระเยซูมีลักษณะบางอย่างที่ด้อยกว่าพระบิดา เช่น ด้อยกว่าด้าน eternal เพราะถูกสร้าง, ด้อยกว่าด้านความรู้, ด้อยกว่าด้านอำนาจ ซึ่งข้อโจมตีของคนกลุ่มนี้จะมีลักษณะคล้ายกัน คือ พระเยซูทำบางอย่างที่ “แตกต่าง” จากพระบิดา ดังนั้นพระเยซูจึง “ด้อยกว่า” ซึ่งผมอยากจะให้คำตอบแบบสั้น ๆ ไปก่อนว่า “ความแตกต่างในบทบาท ไม่ได้แปลว่าแตกต่างในคุณค่า” เช่น สามี-ภรรยา มีบทบาทต่างกัน แต่ไม่ได้แปลว่าคุณค่าต่างกัน (จะอธิบายมากขึ้น ในตอนต่อ ๆ ไปนะครับ) โดยเรียกชื่อกลุ่มนี้รวม ๆ ว่า 𝐒𝐮𝐛𝐨𝐫𝐝𝐢𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐢𝐬𝐦
𝐀𝐝𝐨𝐩𝐭𝐢𝐨𝐧𝐢𝐬𝐦 เชื่อว่าสภาพความเป็นพระเจ้าของพระเยซูถูกเติมมาในภายหลัง บ้างก็เชื่อว่าหลังบัพติสมาของยอห์น บ้างเชื่อว่าหลังจากฟื้นพระชนม์ บ้างเชื่อว่าหลังจากขึ้นสวรรค์
𝐀𝐫𝐢𝐚𝐧𝐢𝐬𝐦 เชื่อว่าพระบิดาสร้างพระเยซูเป็นสิ่งแรก (Firstborn) และพระบิดาก็จะสร้างจักรวาลผ่านทางพระเยซู
𝐔𝐧𝐢𝐭𝐚𝐫𝐢𝐚𝐧 เชื่อว่าพระเยซูมีลักษณะที่ด้อยกว่าพระบิดาในบางด้าน หรือเรียกว่า พระเจ้าที่ด้อยกว่า (lesser god)
𝐉𝐞𝐡𝐨𝐯𝐚𝐡 𝐖𝐢𝐭𝐧𝐞𝐬𝐬 เชื่อว่าพระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้า
สุดท้ายนี้ผมอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับการพูดคุย/แลกเปลี่ยนในเรื่องตรีเอกานุภาพกับ nontrinitarian ซึ่งผมพบว่ารูปแบบการโจมตีจะมีลักษณะคร่าว ๆ คือ “ใช้ข้อพระคัมภีร์ที่สนับสนุนตรีเอกานุภาพด้านหนึ่ง เพื่อมาโจมตีตรีเอกานุภาพอีกด้านหนึ่ง” เช่น
ยกข้อพระคัมภีร์ที่สนับสนุนพระเจ้าหนึ่งเดียว เพื่อมาโจมตีพระเจ้ามีสามบุคคล
ยกข้อพระคัมภีร์ที่สนับสนุนพระเจ้ามีสามบุคคล เพื่อมาโจมตีพระเจ้ามีหนึ่งเดียว
ยกข้อพระคัมภีร์ที่สนับสนุนความเท่าเทียมกัน เพื่อมาโจมตีพระเจ้ามีหนึ่งเดียว
และการสนทนาก็จะวนไปวนมา … จนบางครั้งผมก็เลิกคุยดีกว่า … เสียเวลา
𝐓𝐨 𝐛𝐞 𝐜𝐨𝐧𝐭𝐢𝐧𝐮𝐞𝐝 …
สำหรับผู้อ่านท่านใด้ที่ยังไม่ได้อ่านบทความตอนที่ 1 สามารถคลิกรูป หรือ ลิงก์ด้านล่างนี้ เพื่ออ่านได้
ตรีเอกานุภาพ ตอนที่ 1 – ความยากของตรีเอกานุภาพ (𝐓𝐫𝐢𝐧𝐢𝐭𝐲 𝐏𝐚𝐫𝐭 𝟏 – 𝐃𝐢𝐟𝐟𝐢𝐜𝐮𝐥𝐭𝐲 𝐨𝐟 𝐓𝐫𝐢𝐧𝐢𝐭𝐲)
บทความโดย : ดร.อาณัติ เป้าทอง
Graphics by : Rainnie Design
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น