บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก
(Come to me, all you who are weary and burdened, and I will give you rest)
– Matthew 11:28 –
ผมอ่านและได้ยินพระคัมภีร์ตอนนี้มานับครั้งไม่ถ้วน และก็รู้สึกได้ว่าจิตใจได้รับการปลอบ ภาระหนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน เศรษฐกิจ สุขภาพ และคำเชิญชวนนี้ก็เหมาะสมกับโลกของเราวันนี้ ที่ผู้คนเหน็ดเหนื่อย แบกภาระทั้งที่มีอยู่แล้ว และที่หามาเพิ่มแต่ละวัน พระเจ้าต้องการให้เราได้หยุดพัก นี่เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหา “ข่าวดี” ของพระเจ้าที่มาถึงมนุษย์ทุกคนได้โลกนี้
แต่คำถามก็เกิดขึ้นเมื่ออ่านข้อนี้อีกครั้งในบริบทของทั้งตอนตั้งแต่บทที่ 11 ข้อที่ 1 เป็นต้นมา พระเยซูไม่ได้กำลังพูดถึง “ความเหน็ดเหนื่อย” และ “ภาระหนัก” ที่เกิดกับร่างกายและจิตใจจากการดำเนินชีวิตประจำวัน
ตั้งแต่ 11:1 ยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาได้ส่งสาวกของเขามาถามว่า พระเยซูเป็นผู้นั้นที่จะมาเป็นพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดของโลกจริงหรือไม่ (11:3) หลังจากกล่าวยืนยันว่าพระองค์เป็นพระคริสต์แล้ว พระองค์กล่าวตำหนิผู้คนที่จ้องจับผิดพระองค์ ทั้งๆ ที่พวกเขาก็เห็นการอัศจรรย์และได้ยินคำสอนของพระองค์แล้ว
พระเยซูเปรียบเปรยถึงเมืองต่างชาติชั่วร้ายสองเมือง ทั้งสองเมืองอาจจะกลับใจไปแล้วเมื่อได้เห็นสิ่งที่พระเยซูทำ แต่พวกยิวเองกลับไม่กลับใจ (11:20-24) ต่อเนื่องด้วยการสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์ทรงเปิดเผยข่าวดีของพระองค์กับคนที่เล็กน้อยเฉกเช่นเด็กเล็กๆ แต่ปิดบังจากคนที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว ฉลาดแล้ว ไม่ต้องให้ใครมาสอน
จากบริบทตรงนี้ พระคัมภีร์ฉบับ The Message จึงรวบยอดความคิดทั้งหมด และแปลข้อที่ 28 ใหม่ว่า “Are you tired? Worn out? Burned out on religion? Come to me. Get away with me and you’ll recover your life. I’ll show you how to take a real rest.” พระเยซูบอกผู้คนว่า เหนื่อยหรือไม่ที่ต้องรักษากฏเกณฑ์ ธรรมบัญญัติ พยายามทุกวิธีทาง ทุกพิธีกรรม ทุกการทำบุญ แต่ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย เพราะแท้จริงสิ่งเหล่านั้นไม่สามารถนำให้มนุษย์รอดพ้นจากตาย ความบาปผิดและไปสู่ชีวิตที่แท้จริงได้เลย พระเยซูเชิญชวนต่อไปว่า “มาซิ มาหาเรา และท่านจะพบกับชีวิตที่แท้จริง”
เมื่ออ่านตรงนี้แล้วผมจึงพบว่า เป็นความจริงที่ทุกคนในโลกนี้เหน็ดเหนื่อยกับชีวิต และความเหน็ดเหนื่อยที่สุดในชีวิตก็คือ การต้องพยายามรอดพ้นจากกฎแห่งกรรม ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีทาง แม้แต่คนที่ดีมากมาย ทำบุญอย่างไรก็ตาม มนุษย์ทุกคนก็เป็นคนบาปและไม่สามารถชดใช้ความบาปได้ด้วยตัวเอง แต่พระเยซูมาเชิญชวนเราให้ไปหาพระองค์ เพราะแท้จริงแหล่งแห่งชีวิตจะต้องเป็นผู้ที่มีชีวิตเท่านั้นจึงจะสามารถให้ชีวิตคนอื่นได้ และนั้นเองเป็นการหยุดพักอย่างแท้จริงในชีวิตของเรา
แม้แต่คริสเตียนเองที่รู้ทั้งรู้ว่าเรามีชีวิตแท้จริงและได้รับความรอดโดยพระคุณของพระเจ้า แต่เราก็ยังเพิ่มภาระให้กันและกันด้วยหน้าที่ต่างๆ ทางศาสนา เช่นถ้าเราไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียม ข้อควรปฏิบัติต่างๆ เราจะดูเป็นคริสเตียนที่ไม่เอาจริงเอาจัง เคร่งครัดเท่าที่ควร
หรือหลายคนใช้งานในฐานะของ “การรับใช้” มอบหมายให้แก่กันและกันโดยที่ไม่ได้ใส่ใจถึงชีวิต การเติบโต ความเข้าใจในการเป็นสาวก ความอยู่ดีมีสุขของผู้อื่น เมื่อได้มอบ “งานรับใช้” ให้กันแล้วก็จบไป ทำให้การเป็นคริสเตียนของหลายๆ ท่านนั้นเต็มไปด้วยหน้าที่รับผิดชอบ ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานรับใช้ ก็มาแทนที่ความชื่นชมยินดีที่ได้ “หยุดพัก” เมื่อมารู้จักกับพระเยซูคริสต์ไปอย่างน่าเสียดาย
บทความ: ปดิพัทธ์ สันติภาดา
ภาพ: Nicolas Schebitz on Unsplash
ออกแบบ: Zippy
บทสนทนา
ไม่มีความคิดเห็น