บทความ

เชี่ยวชาญในการทำดี และทึ่มในการทำชั่ว

การเชื่อฟังของพวกท่านก็เลื่องลือไปถึงหูทุกคนแล้ว
ข้าพเจ้าจึงมีความยินดีเพราะท่าน ข้าพเจ้าอยากให้ท่าน
เชี่ยวชาญในการดีและทึ่มในการชั่ว
– โรม 16:19 –

All the believers have heard that you obey,
so I am very happy because of you. But I want you
to be wise in what is good
and innocent in what is evil.
– Romans 16:19 NCV –

พี่น้องที่รักครับ น่าแปลกใจที่คนบางคนเก่งมากในการทำชั่ว! เขาสามารถทำชั่วได้อย่างแยบยลและอย่างช่ำชอง ดังตัวอย่างเรื่องสนุกๆ ที่เล่าต่อๆ กันมาว่า

  1. โจรบุกเข้าปล้นธนาคารของรัฐ ชักปืนออกมา และว่า “ทุกคนนอนลง อย่าขยับ เงินเป็นของรัฐ แต่ชีวิตนั้น เป็นของคุณ!” 
    ทุกคนรีบนอนบนพื้น อย่างสงบ ไม่มีใครกล้าเสี่ยงชีวิตตัวเอง ไปปกป้องเงินของรัฐ
    เราเรียกสิ่งนี้ว่า “เทคนิคการเปลี่ยนแนวคิด” นับว่าโจรมีความเชี่ยวชาญในการใช้ เทคนิคการพูด แบบแค่พูดนิดเดียว ก็เปลี่ยนแนวคิดคนฟังได้หมดในทันที
    .
  2. ผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้นตัวสั่นทำท่าจะกรีดร้องด้วยความกลัว ทันใดนั้นโจรก็ตะโกนใส่ผู้หญิงคนนนั้นว่า “เรามีวัฒนธรรม ผมมาปล้นแบ๊งค์ ไม่ได้มาข่มขืนคุณ ฉะนั้น โปรดเงียบ!” ผู้หญิงคนนั้น ก็รีบปิดปากเงียบสนิทโดยฉับพลัน
    เราเรียกสิ่งนี้ว่า “การเป็นมืออาชีพ” นั่นคือ ตั้งมั่นแต่ในเป้าหมาย ไม่วอกแวกแล้วเดินหน้าตามเป้าหมายนั้น
    .
  3. โจรรีบหลบหนีกลับมาถึงฐานลับ โจรรุ่นหนุ่มที่จบการศึกษาระดับ ปริญญาโท MBA จึงพูดกับโจรรุ่นพี่ว่า “พี่ครับ ให้เรามานับเงินกันดีกว่า ดูว่าเราได้มาเท่าไหร่?” แต่โจรรุ่นพี่ที่จบเพียงชั้นประถม กล่าวว่า “แกนี่มันโง่มาก เงินตั้งเยอะตั้งแยะ อย่างนี้ จะไปนับกันยังไง เดี๋ยวคืนนี้ ทีวีคงจะบอกเราเองแหละว่า เราได้เงินมาเท่าไหร่”
    เราเรียกสิ่งนี้ว่า “ประสบการณ์” ประสบการณ์นั้นมีค่ามากกว่า ใบปริญญามากมายนัก!
    .
  4. รองผู้จัดการธนาคาร จะโทรศัพท์แจ้งตำรวจหลังจากที่โจรจากไปแล้ว แต่ผู้จัดการธนาคารกลับรีบค้านว่า “เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆก่อน ให้เรามานับเงินกันก่อนดีกว่า แล้วแจ้งตำรวจว่า โจรเอาไปมากกว่านั้น”
    เราเรียกสิ่งนี้่ว่า “กินตามน้ำ” เป็นทักษะชั้นสูงในการฉวยผลประโยชน์เข้าตัวเองของคนฉลาด!
    .
  5. รองผู้จัดการฯ จึง เปรยขึ้นว่า “นั่นสินะ ถ้า มีโจรมาปล้นธนาคารเรา ทุกๆ เดือน ก็ดีสินะ”
    เราเรียกสิ่งนี้ว่า “การเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส”
    .
  6. วันถัดมา ทีวีทุกช่องรวมทั้งช่องข่าวออนไลน์ต่างๆ ออกข่าวกันครึกโครมว่า มีโจรปล้นธนาคารของรัฐ ได้เงินไป 100 ล้านบาท โจรที่ปล้นธนาคาร ต้องกลับไปนับเงินใหม่อีกครั้ง หลังจาก นับแล้วนับอีก ไม่ว่าจะนับไปกี่รอบ ก็ยังนับเงินได้แค่ 20 ล้านบาท ลูกพี่โจรรู้สึกโกรธมาก ระเบิดอารมณ์ออกมาว่า “เราเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เข้าปล้นธนาคารนี้ และปล้นออกมาได้แค่ 20 ล้านบาท แต่เจ้าผู้จัดการธนาคาร มันหัวไว แค่พูดนิดเดียว มันทำเงินได้มากกว่าเรา ถึง 80 ล้านบาท!”
    เราเรียกสิ่งนี้ว่า “ปฏิภาณไหวพริบดี มีค่ามากกว่าทองคำ” ความเป็นคนหัวไว มีปฏิภาณ ไหวพริบดี เมื่อบวกกับมีการศึกษา และ มีความรู้ ก็สร้างผลประโยชน์ให้แก่ตัวได้มากมายได้ทันที เมื่อมีจังหวะและโอกาส
    .
  7. ผู้จัดการธนาคาร และรองผู้จัดการ ต่างก็ยิ้มอย่างเริงร่า เพราะว่าอยู่ดีๆ พวก เขาก็ได้เงินเพิ่มขึ้นถึง 80 ล้านบาทมาแบ่งกัน จากการที่โจรมาปล้นธนาคารที่เขาดูแล
    เราเรียกสิ่งนี้ว่า “โคตรโกง!” เขาจึงพูดกันว่า ”โจรเสื้อนอกร้ายกาจยิ่งกว่าโจรปล้นแบงก์” มากมายนัก!

ดังนั้น พี่น้องที่รัก อย่าให้เราเป็นคนฉลาดแกมโกง อย่างผู้จัดการและโจรพวกนี้เลย แต่ขอให้เราเป็นคนที่เชี่ยวชาญในการทำดี และทึ่มในการทำชั่ว จะปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อสังคมโลกมากกว่า!

เพราะในบั้นปลายสิ่งที่เรา จะได้รับการเปิดเผย และเราจะต้องรับผลแห่งกรรมที่เรากระทำอย่างหนีไม่พ้น และเราทุกคนต้องยืนให้การต่อหน้าบัลลังก์ของพระเจ้า ในการพิพากษาสุดท้ายสำหรับสิ่งที่เรากระทำ!

“ทำดี เราจะได้ดี และ ทำชั่ว เราจะได้ชั่ว!

อย่าหลงเลย ท่านจะล้อเล่นกับพระเจ้าไม่ได้
เพราะว่าใครหว่านอะไรลง ก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น
คนที่หว่านสิ่งที่ตอบสนองเนื้อหนังของตน

ก็จะเก็บเกี่ยวความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น
แต่คนที่หว่านสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณ
ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น

– กาลาเทีย 6:7-8 –

 

บทความ:  อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
ภาพ:  BP Miller on Unsplash
ออกแบบภาพ:  Zippy

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง