บทความ

Worship U Cory Asbury : Cultivating The Anointing (การบ่มเพาะการเจิม)

Worship U Cory Asbury : Cultivating The Anointing (การบ่มเพาะการเจิม)

อาจจะดูเป็นเรื่องปกติที่เรามีคำคุ้นชินติดปากเวลาจะชื่นชมพี่น้องร่วมรับใช้ว่า “พระเจ้าเจิมในสิ่งที่คุณทำ” เมื่อเรารู้สึกประทับใจในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง หรือผลงานอย่างใดอย่างหนึ่งของพี่น้องที่ร่วมรับใช้กับคุณที่มองเห็นเป็นที่ประจักษ์ ความจริงแล้วกว่าที่เราจะได้รับการเจิมมันมีกระบวนการมากกว่านั้น

การเจิมถูกพูดถึงในพระธรรมยากอบผ่านเหตุการณ์ที่ผู้ปกครองอธิษฐานเผื่อคนที่ป่วยและเจิมเขาด้วยน้ำมัน ทั้งที่ในความเป็นจริงน้ำมันไม่ได้มีฤทธิ์ในการรักษาโรค หากแต่เป็นเพียงสัญลักษณ์ของสิทธิอำนาจของพระเยซูผู้นำการรักษานั้นลงมาถึงผู้ที่ได้รับ และที่สำคัญในพระธรรม 1 ยอห์นบางช่วงบางตอนบันทึกไว้ว่า “การเจิมนั้นจะสถิตอยู่กับตัวเรา”

คุณทราบหรือไม่ว่าน้ำมันที่ใช้ในการเจิมนั้นกว่าจะได้มานั้นต้องนำมะกอกสดมาบดด้วยแรงกด 6,000 ปอน/ตร.ฟุต ลงบนพื้นที่ 12×12 ฟุต ซึ่งไม่ต่างกับเหล้าองุ่นที่ต้องถูกเหยียบย่ำจนเละก่อนจะกลายเป็นผลผลิตราคาแพงที่ใครๆ ก็ยอมจ่ายราคาเพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติ และถูกจัดให้เป็นเครื่องดื่มหรูที่ใครๆ หลายคนใฝ่ฝันจะได้ลิ้มลอง

เราจึงจะสังเกตุเห็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของการเจิมคือ ก่อนจะมีการเจิมจะต้องมีบางอย่างถูกทำให้แตกหักออกเสียก่อน ตัวอย่างที่พบเห็นได้ในพระคัมภีร์คือก่อนที่ยาโคบจะได้รับการบันทึกว่ามีการเจิมก็มีเหตุการณ์ที่ต้องปล้ำสู้กับพระเจ้าทั้งคืนจนเกิดอาการบาดเจ็บ ภายหลังก็ถูกตั้งชื่อใหม่เป็นเหมือนการเริ่มต้นการอวยพรให้กับทั้งชนชาติอิสราเอล

ความจริงอย่างหนึ่งในยุคปัจจุบันนี้คนส่วนมากมักไม่ค่อยอยากจะดูอ่อนแอต่อหน้าพระเจ้า พยายามหันด้านที่เข้มแข็งให้อยู่ในสป็อตไลท์ตลอดเวลาแต่พระทรงทอดพระเนตรที่จิตใจก่อน เช่นเดียวกับการที่ทรงเลือกที่จะเทการเจิมให้กับดาวิดในที่สุด แม้ว่าบุคคลิกภายนอกของซาอูลจะดูเป็นที่ยอมรับมากกว่ารวมถึงรูปร่างสูงใหญ่และมีฐานะเป็นถึงกษัตริย์ก็ตาม ในทางกลับกันดาวิดถูกจัดให้ไปอยู่ท้ายแถวเพราะตัวเล็กดูไม่มีสง่าราศีในเวลาที่ซามูเอลมาถึง แต่พระเจ้าก็ทรงตรัสในใจซามูเอลว่าให้เลือกเจิมดาวิดเพราะทอดพระเนตรดูที่จิตใจของเขา

ในทำนองเดียวกันสำหรับทีมนมัสการเราก็ไม่ควรเลือกผู้นำนมัสการที่มีเพียงความสามารถในทางดนตรีแต่ควรมองหาผู้ที่มีการเจิมก่อนแล้วค่อยพิจารณาความสามารถ เพราะความสามารถทำได้เพียงให้คนลุกขึ้นยืนและปรบมืออย่างชื่นชม ในขณะที่การเจิมจะทำให้คนคุกเข่าลงและยอมจำนนต่อพระเจ้า

แน่นอนหลายๆ คนรวมถึงตัวคุณเองก็อยากที่จะได้รับการเจิมจากพระเจ้า แต่ก่อนที่การเจิมจะมาถึงเราจำเป็นที่เราต้องผ่านการทดสอบ การถูกบดขยี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ตัว Cory Asbury กล่าวถึงประสบการณ์ของเขาที่ได้เริ่มเข้ามารับใช้ร่วมกับทีมนมัสการของ Bethel Music

“ก่อนที่ผมจะมาร่วมทีมกับเบธเอล ผมรู้สึกว่าผมเป็นผู้นำนมัสการที่โดดเด่นในที่ที่ผมรับใช้ แต่พอมาที่เบธเอล มิวสิค ผมก็รู้สึกว่าผมตัวเล็กนิดเดียวและก็ไม่รู้ว่าจะไปยืนตรงไหนดีและนั่นก็คือประสบการณ์ที่พระเจ้าบดขยี้เอาความลำพองใจของผมออกไป”

สิ่งที่ควรตระหนักอยู่เสมอคือ

“คุณเลือกได้ว่าจะยอมให้การทดสอบของพระเจ้าพาให้คุณพังพินาศหรือเจริญเติบโตขึ้น”

เพราะทุกคนที่ได้รับการเจิมล้วนผ่านกระบวนการนี้กันทั้งนั้น ความจริงคือการเจิมไม่สามารถถ่ายทอดให้กันได้ เพราะคุณไม่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้สึกที่คุณได้รับจากพระเจ้าให้คนอื่นได้ เทคโนโลยีหล่อหลอมให้เราคุ้นชินกับการ Fast Forward ไปที่จุดที่เราต้องการ พยายามหาทางลัดข้ามขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพื่อไปให้ถึงการเจิม เสมือนได้รับการเจิมแบบสำเร็จรูป น่าเสียดายที่มันไม่มีอยู่จริง

คุณควรรู้ว่าเมื่อการทดสอบมาถึงชีวิตของคุณมันไม่ได้หมายความว่าคุณถูกลงโทษ คุณไม่จำเป็นต้องค้นหารายการความผิดบาปของคุณเพื่อจะอธิบายความยากลำบากที่พระเจ้านำมาถึงคุณ เพราะพระเจ้าต้องการให้คุณได้เรียนรู้จักความรักของพระเจ้าผ่านพระเมตตาของพระองค์นั่นเองและเมื่อวันแห่งการเจิมมาถึงคุณจะสามารถส่งผ่านพระเมตตาผ่านคำพยานที่ทรงพลังที่สุดนั่นก็คือชีวิตของคุณนั่นเอง

———————
ผู้เทศ : Cory Asbury, Worship U
ผู้แปล : ปาล์ม เลวีวงศ์
ออกแบบ:  Nantharinee
———————

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง